5 พฤติกรรมหลีกเลี่ยงการถูกสัตว์เลี้ยงกัด ลดเสี่ยง “พิษสุนัขบ้า”

อากาศร้อนๆ แบบนี้ โรคติดต่อระบาดหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่มนุษย์เท่านั้นที่เสี่ยงอันตราย เจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณก็อาจจะติดเชื้อโรคติดต่อที่อันตรายถึงชีวิต และยังแพร่เชื้อมาสู่มนุษย์ได้อย่างโรค “พิษสุนัขบ้า” ได้เหมือนกัน นอกจากการพาสัตว์เลี้ยงของตัวเองไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าตามเวลาแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่จะหลีกเลี่ยงการติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้เป็นอย่างดี คือการระวังตัวเองไม่ให้โดนสัตว์เลี้ยง หรือสัตว์ที่เราไม่ได้เลี้ยงกัดเอานั่นเอง

อ่านต่อ >> วิธีสังเกตสัตว์เลี้ยงแสนรักจาก “พิษสุนัขบ้า”

 

5 พฤติกรรมหลีกเลี่ยงการถูกสัตว์เลี้ยงกัด ลดเสี่ยง “พิษสุนัขบ้า”

1. อย่าแหย่สัตว์เลี้ยงให้โมโห

ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดใดก็ตาม มีสิทธิ์ที่จะติดเชื้อพิษสุนัขบ้าได้ ดังนั้นถ้าไม่อยากถูกกัด ก็อย่าทำให้พวกเขาโมโห อย่าแกล้งแหย่ หรือทำร้ายสัตว์เหล่านั้นจนทำให้พวกมันต้องต่อสู้กับเรา

 

2. อย่าเหยียบหาง หรือทำให้ตกใจ

นอกจากอารมณ์โมโหแล้ว อาการตกใจก็อาจทำให้สัตว์เลี้ยงเหล่านั้นหันมาป้องกันตัวเองด้วยการกัด ข่วน หรือทำร้ายเจ้าของ และคนรอบข้างได้ โดยเฉพาะส่วนหางซึ่งเป็นอวัยวะที่มีประสาทสัมผัสไว ดังนั้นไม่ควรสัมผัสบริเวณหาง และระหว่างเดินก็อย่าลืมมองพื้นเพื่อหลีกเลี่ยงการเดินเหยียบหางของพวกเขาด้วย

 

3. อย่าแยกสัตว์ที่กัดกันด้วยมือเปล่า

ในขณะที่เราเลี้ยงสัตว์หลายตัว พาสัตว์เลี้ยงออกไปนอกบ้านแล้วไปมีเรื่องกับตัวอื่น หรือการเห็นสัตว์ข้างนอกบ้านกัดกันเองแล้วอยากจะเข้าไปห้าม อย่าเข้าไปมือเปล่าเด็ดขาด เพราะระหว่างที่สัตว์เหล่านั้นกำลังโมโหอยู่ คุณอาจได้รับลูกหลงเป็นแผลกัด ข่วน ถลอก หรืออาจจะเจ็บมากกว่านั้นได้ ดังนั้นควรใช้เสียงดังในการตะโกนบอกให้หยุดเป็นคำสั้นๆ (ไม่ใช้เสียงสูงและยาว โหวกเหวกโวยวาย) ระหว่างที่พวกเขากำลังกัดกันไม่ปล่อย ให้เข้าไปใช้สายจูงรัดบริเวณใต้ท้องด้านหลังแล้วดึงแยกพวกเขาออกมาในขณะที่สัตว์ตัวนั้นกำลังอ้าปากปล่อย เพื่อลดอาการบาดเจ็บของทุกฝ่าย และถ้าเป็นไปได้ควรดึงออกจากกันพร้อมกันทั้ง 2 ตัว นอกจากนี้อาจจะเป็นการฉีดน้ำไล่ หรือการคลุมด้วยผ้าห่มให้พวกเขามองไม่เห็นซึ่งกันและกัน แล้วให้เจ้าของเข้าไปลากสัตว์เลี้ยงของตัวเองออกมาจากใต้ผ้าห่มก็ได้เช่นกัน

 

4. อย่าหยิบแย่งจานอาหาร

สัตว์เลี้ยงหลายตัวหวงอาหารของตัวเอง หากเราแกล้งเข้าไปหยิบแย่งจานอาหารของเขาออกมา หรือเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับจานอาหารของเขาในขณะที่เขากำลังกินอยู่ อาจจะโดนขู่ หรือโดนแว้งกัดได้ ดังนั้นควรเข้าไปให้อาหาร แล้วหนีออกมาอยู่ไกลๆ รอจนกว่าเขาจะกินเสร็จ แล้วเข้าไปหยิบจานอาหารจะดีกว่า

 

5. อย่ายุ่งกับสัตว์ตัวอื่นที่เราไม่ได้เลี้ยง

อาจจะฟังดูโหดร้ายไปนิด แต่กับสัตว์จรจัดทุกตัวตามท้องถนน เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าพวกเขาติดเชื้อสุนัขบ้าหรือไม่ ดังนั้นเราอาจจะระมัดระวังในการเข้าหาสัตว์เหล่านั้น รวมถึงสัตว์เลี้ยงของคนอื่นที่อาจจะไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเราก็ได้ อย่าคิดว่าสัตว์ทุกตัวบนโลกนี้น่ารักกับเราเสมอไป ดังนั้นก่อนเข้าใกล้สัตว์เหล่านั้น ควรสังเกตอาการ และลักษณะภายนอกของเขาดีๆ และถ้าเป็นไปได้ก็อย่ายุ่งเลยจะดีกว่า หากพบสัตว์ป่วยควรติดต่อสัตว์แพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญให้มารับไปรักษาจะปลอดภัยกว่า

 

สุดท้าย หากคุณได้รับอาการบาดเจ็บจากสัตว์เลี้ยงขึ้นมาจริงๆ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าโดยเร็วที่สุด

อ่านต่อ >> วัคซีนพิษสุนัขบ้า ฉีดอย่างไร? ฉีดกี่ครั้ง?

อาการของคนที่ติดเชื้อโรค “พิษสุนัขบ้า”