เล่นโทรศัพท์มือถือมากเกินไป เสี่ยง Text Neck Syndrome!
นพ.ภัทร โฆสานันท์ ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ-โรคกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า การก้มหน้าเล่นโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ นอกจากจะมีปัญหาด้านสายตาแล้ว อาจส่งผลกระทบต่อคอ ไหล่ และกระดูกสันหลัง ทำให้เกิดความเสี่ยงเป็น Text Neck Syndrome คือ กลุ่มอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า และไหล่ อาจรวมถึงความเสื่อมกระดูก ข้อต่อกระดูก หรือหมอนรองกระดูกบริเวณคอได้ โดยปัญหาเหล่านี้ เกิดจากการบาดเจ็บซ้ำซากบริเวณคอ ซึ่งเกิดจากการใช้งานโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เป็นเวลานานเกินไป
อาการของ Text Neck Syndrome มีอาการปวดเรื้อรังบริเวณต้นคอ บ่า ไหล่ หรือสะบัก ในรายที่เป็นมากจะมีอาการชา ปวดร้าวจากคอไปยังมือ หรือมีอาการอ่อนแรงของแขนและมือได้ โดยอาการจะดีขึ้นชั่วคราวหลังจากผู้ป่วยรับประทานยา หรือทำกายภาพบำบัด แต่จะกลับมาเป็นใหม่เมื่อผู้ป่วยเริ่มมีการใช้งานโทรศัพท์มือถือในลักษณะ เดิม ๆ อีก
ความรุนแรงของ Text Neck Syndrome มีหลายระดับ ตั้งแต่เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น มีการอักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า สะบัก และหัวไหล่ จนถึงปัญหาที่มีความรุนแรง เช่น มีความเสื่อมของแนวกระดูก หรือหมอนรองกระดูกคอ ซึ่งก่อให้เกิดการกดทับของไขสันหลัง หรือรากประสาทบริเวณคอ ทำให้เกิดอาการชา หรืออ่อนแรงของแขนและมือได้
สาเหตุ ที่การใช้งานโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน ๆ ในแต่ละวัน สามารถก่อให้เกิด Text Neck Syndrome เพราะขณะที่ใช้งานโทรศัพท์มือถือ ร่างกายจะอยู่ในอิริยบถที่ไม่เหมาะสม คือ ท่าที่ศีรษะโน้มมาด้านหน้า ไหล่สองข้างห่อและก้มหลัง
"จากการวิจัยพบว่า ยิ่งมีมุมในการก้มศีรษะมากเท่าใด จะยิ่งมีแรงกดดันในคอเพิ่มขึ้นเท่านั้น หากก้มศีรษะเป็นมุม 15 องศา แรงกดบริเวณคอจะเพิ่มจาก 12 ปอนด์ในท่าที่คออยู่ในแนวตรงไปเป็น 27 ปอนด์ และหากก้มศีรษะมากขึ้นเป็น 45 องศา แรงกดจะเพิ่มไปถึง 49 ปอนด์"
การป้องกัน Text Neck Syndrome โดยการปรับลักษณะนิสัยในการใช้งานโทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ทั้งท่าทางการใช้งาน ระยะเวลาที่ใช้งาน โดยควรจะพยายามให้ท่าทางของคออยู่ในแนวตรงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ก้มหลัง และไม่ห่อไหล่ ในขณะที่ใช้งานโทรศัพท์มือถือ และมีการพักเปลี่ยนอิริยาบถเป็นระยะ ในขณะที่มีการใช้งานโทรศัพท์มือถือต่อเนื่องเป็นเวลานาน
การรักษาสำหรับผู้ที่มีอาการของ Text Neck Syndrome แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ
1.การ กายภาพบำบัด เช่น การคลายกล้ามเนื้อ การยืดกล้ามเนื้อ การสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ และการปรับท่าทางของร่างกายให้อยู่ในอิริยาบถที่เหมาะสม นอกจากนี้การใช้ยาเพื่อลดการอักเสบ และคลายกล้ามเนื้อก็สามารถช่วยลดอาการปวดได้เช่นกัน สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจนถึงมีการเสื่อมของกระดูกหรือหมอนรองกระดูก คอ ร่วมกับการกดทับไขสันหลังหรือรากประสาท อาจจะต้องพิจารณาถึงการรักษาโดยวิธีการผ่าตัด
2.การป้องกันไม่ให้ อาการกลับมาเป็นซ้ำอีก สามารถทำได้โดยการปรับท่าทางของร่างกายในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในท่าทางที่เหมาะสม และสร้างความเคยชินที่ถูกต้องในการใช้งานโทรศัพท์มือถือ ทั้งในแง่ของท่าทาง และระยะเวลาในการใช้งาน
"การรักษาในกรณีที่มีความเสื่อมของกระดูก หรือหมอนรองกระดูกอย่างมากร่วมกับการกดทับของรากประสาทรุนแรง อาจต้องพิจารณารักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดบริเวณกระดูกคอในปัจจุบัน สามารถทำได้ด้วยการผ่าตัดแผลเล็กและมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บของเส้นประสาท ค่อนข้างต่ำมาก โดยการใช้เครื่องมือพิเศษเข้ามาช่วยในการผ่าตัด เช่น กล้อง Microscope และเครื่อง O-ARM ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องช่วยในการผ่าตัดด้วยระบบคอมพิวเตอร์สร้างภาพแบบ 3 มิติ ที่ช่วยให้การผ่าตัดแม่นยำและปลอดภัยมากขึ้น ทำให้ผลของการผ่าตัดมีประสิทธิภาพสูง ดังนั้นการฟื้นตัวของผู้ป่วยก็จะฟื้นได้เร็วกว่าการผ่าตัดแบบทั่วไป
อย่าง ไรก็ตาม ในปัจจุบันมีตัวช่วยในการป้องกัน Text Neck Syndrome ในรูปแบบของแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ โดยแอปพลิเคชันเหล่านี้ จะคอยตรวจสอบมุมของหน้าจอโทรศัพท์ และคำนวณถึงความน่าจะเป็นของมุมการก้มคอของผู้ใช้งานโทรศัพท์ในขณะนั้น ซึ่งหากพบว่าในการก้มคอไม่เหมาะสม แอปพลิเคชันเหล่านี้จะทำการเตือนผู้ใช้งานให้ปรับเปลี่ยนท่าทางของตนได้