"อัมพฤกษ์ อัมพาต" ฟื้นฟูถูกวิธี ช่วยลดความพิการได้

"อัมพฤกษ์ อัมพาต" ฟื้นฟูถูกวิธี ช่วยลดความพิการได้

"อัมพฤกษ์ อัมพาต" ฟื้นฟูถูกวิธี ช่วยลดความพิการได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์เตือนให้ประชาชนตื่นตัวป้องกัน หากพบอาการแขน ขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่งสับสนพูดลำบากพูดไม่รู้เรื่องมองเห็นลดลงมีปัญหาการเดินมึนงงให้รีบไปพบแพทย์ด่วนที่สุดใน 3 ชั่วโมงครึ่ง เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคอัมพฤกษ์ - อัมพาต

นายแพทย์สมศักดิ์  อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า องค์การอนามัยโลกกำหนดให้ วันที่ 24 พฤษภาคมของทุกปี เป็นวันอัมพฤกษ์ อัมพาตโลก หรือ “วันหลอดเลือดสมอง” เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวตระหนักถึงความสำคัญของโรคดังกล่าว หากประชาชนรู้จักวิธีดูแลตนเองและหมั่นสำรวจความผิดปกติของร่างกายอยู่เสมอจะสามารถป้องกันและลดความรุนแรงของโรคได้

 

ปัจจัยเสี่ยง โรคหลอดเลือดสมอง

  • ความดันโลหิตสูง

  • เบาหวาน

  • ไขมันในเลือดสูง

  • มีญาติสายตรงป่วยโรคหลอดเลือดสมอง

  • ขาดการออกกำลังกาย

  • น้ำหนักเกิน

  • สูบบุหรี่

 

สัญญาณอันตราย อาการเริ่มแรกของโรคหลอดเลือดสมอง

  • แขน ขาอ่อนแรงซีกเดียวของร่างกาย

  • สับสน พูดลำบาก พูดไม่รู้เรื่อง

  • ตามองเห็นลดลง 1 หรือทั้ง 2 ข้าง

  • มีปัญหาการเดิน มึนงง

อาการเหล่านี้มักเกิดฉับพลันให้รีบมาพบแพทย์ด่วนที่สุดภายใน 3 ชั่วโมงครึ่ง จะรักษาชีวิตและฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติหรือใกล้เคียงได้มากที่สุด

 

วิธีลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง

1. รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

2. หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม ไขมันสูง

3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

4. งดเครื่องดื่มมึนเมา เลี่ยงสูบบุหรี่

5. ตรวจสุขภาพประจำปี

 

แพทย์หญิงไพรัตน์  แสงดิษฐ  ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัญหาที่สำคัญของผู้ป่วยอัมพฤกษ์ อัมพาตคือการที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้จำเป็นต้องรักษาหรือฟื้นฟูด้วยวิธีต่างๆ เพื่อให้ร่างกายมีสภาพที่ดีขึ้นสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น

สำหรับวิธีการฟื้นฟูผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาตควรทำความเข้าใจร่วมกันระหว่างแพทย์ผู้ป่วยและผู้ดูแลเพื่อการดูแลได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เนื่องจากเป็นการฟื้นฟูผู้ป่วยที่เจ็บป่วยเรื้อรังหรือฉับพลันเพื่อลดความพิการหรือป้องกันความพิการให้ได้มากที่สุดสามารถใช้ชีวิตให้เป็นปกติและมีคุณภาพชีวิตที่ดี สำหรับการวินิจฉัยโรคว่าคนไข้อ่อนแรงจากอัมพฤกษ์ อัมพาตหรือไม่ หรือเป็นที่กล้ามเนื้อและกระดูก แพทย์จะซักประวัติและอาจเอกซเรย์สมองร่วมด้วย หากพบว่าเป็นโรคดังกล่าวจะส่งให้แพทย์ดูแลอาการให้สภาพคงที่จากนั้นส่งไปยังศูนย์ฟื้นฟูเพื่อกายภาพบำบัดตามลำดับ

ดังนั้นประชาชนจึงควรมีความรู้เบื้อต้นในการป้องกันการเกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต และการทราบถึงอาการเบื้องต้นเพื่อการส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษาได้ทันเวลา จะยิ่งมีโอกาสสูงมากในการเยียวยาอาการให้ดีขึ้น เช่น การให้ยาละลายลิ่มเลือดในภาวะเส้นเลือดในสมองตีบ และการดูแลที่เหมาะสมในผู้ป่วยที่มีเส้นเลือดในสมองแตกจะช่วยลดอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อน ตลอดจนการลดอัตราการเสียชีวิตได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook