แพทย์เตือน! ช่วงฝนตกระวังถูก "ฟ้าผ่า"
กรมควบคุมโรค เตือนช่วงฝนตกระวังถูกฟ้าผ่า ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่โล่งแจ้งหรืออยู่ใต้ต้นไม้ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กวัยเรียน มักถูกฟ้าผ่าที่สวน นา ไร่และพื้นที่โล่งแจ้ง พร้อมเผย 4 วิธีป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า ผู้ขับขี่รถช่วงฝนตกหนักให้ลดความเร็วลง เปิดไฟหน้ารถ และระมัดระวังหากต้องขับรถผ่านพื้นที่น้ำขังสูง พร้อมระวังเด็กจมน้ำและสัตว์มีพิษกัดต่อยจากน้ำท่วมฉับพลัน
นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศช่วงวันที่ 4-7 มิถุนายน 2561 จะมีพายุดีเปรสชั่นเข้ามายังประเทศไทย ทำให้มีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ กรมควบคุมโรคขอให้ประชาชนระมัดระวังระหว่างฝนตก อาจถูกฟ้าผ่าได้ จากข้อมูลที่ผ่านมาพบว่า กลุ่มผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กวัยเรียน รองลงมาเป็นกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งเหตุการณ์ฟ้าผ่ามักเกิดในพื้นที่โล่งแจ้ง สวน นา ไร่
การป้องกันอันตรายจากการถูกฟ้าผ่า มีดังนี้
- หลีกเลี่ยงอยู่กลางแจ้ง ในขณะฝนตกฟ้าคะนอง หากจำเป็นควรนั่งยอง ย่อตัวให้ต่ำและชิดกับพื้นให้มากที่สุด แต่ไม่ควรนอนราบกับพื้น รวมทั้งหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ต้นไม้สูง เสาไฟฟ้า ป้ายโฆษณา เพราะฟ้าผ่าลงที่สูง
- ควรหลบในตัวอาคารที่ติดตั้งสายล่อฟ้า จะช่วยป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า ไม่ควรใช้โทรศัพท์ เปิดคอมพิวเตอร์ เล่นอินเตอร์เน็ต ดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ หรืออยู่ใกล้ประตู หน้าต่างที่มีส่วนประกอบเป็นโลหะในขณะฟ้าร้องฟ้าผ่า
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เพราะกระแสไฟจากฟ้าผ่าอาจไหลผ่านเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสื่อไฟฟ้าต่างๆ ทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้
- กรณีอยู่ในรถ ควรปิดกระจกทุกบาน หากฟ้าผ่าลงรถควรตั้งสติ ไม่ควรออกจากรถโดยเด็ดขาด เพราะกระแสไฟฟ้าที่ไหลตามผิวโลหะของตัวถังรถจะไหลลงสู่พื้นดิน หากออกนอกรถจะมีความเสี่ยงที่จะถูกฟ้าผ่าสูง ที่สำคัญอย่าสัมผัสส่วนที่เป็นโลหะ การช่วยเหลือผู้ถูกฟ้าผ่าต้องช่วยอย่างรวดเร็ว โดยประเมินความปลอดภัยของที่เกิดเหตุ และโทรขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร. 1669 โดยแจ้งข้อมูลผู้ถูกฟ้าผ่าและสถานที่เกิดเหตุ อาจเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากสถานที่โดนฟ้าผ่าไปยังที่ปลอดภัย
ทางด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศให้ทุกพื้นที่เตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งโดยขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานของรัฐอย่างใกล้ชิด และเตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อป้องกันความสูญเสีย ทั้งในกลุ่มผู้ใหญ่และเด็ก
เพื่อป้องกันการจมน้ำ ควรยึดหลัก “3 ห้าม 2 ให้”
โดย 3 ห้ามได้แก่
1. ห้ามหาปลา/เก็บผัก
2. ห้ามดื่มสุรา
3. ห้ามเล่นน้ำ
2 ให้ ได้แก่
1. ให้สวมเสื้อชูชีพ(หรือนำอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ติดตัวไปด้วย เช่น ถังแกลลอน/ขวดน้ำพลาสติกเปล่าปิดฝา)
2. ให้เดินทางเป็นกลุ่ม พร้อมทั้งระวังสัตว์มีพิษมาหลบอาศัยตามบ้านเรือน ช่วงฝนตกหนัก อาจถูกสัตว์เหล่านั้นกัด/ต่อยได้
ทั้งนี้ ระหว่างฝนตกหนัก การขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ขอให้ลดความเร็วลง เปิดไฟหน้ารถ ทิ้งระยะห่างจากคันหน้า และประเมินสถานการณ์หากต้องขับผ่านพื้นที่น้ำขังสูง เพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ หากพบเห็นผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ขอให้โทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพทันที โทร.1669 หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422