“ท่อปัสสาวะอักเสบ” จากสายชำระในห้องน้ำ อันตรายที่ผู้หญิงควรระวัง
หากใครได้อ่านประสบการณ์ตรงของผู้ใช้งาน Twitter ชื่อว่า fernnnfernnfern.com เล่าถึงอาการปลายท่อปัสสาวะอักเสบจากการใช้สายชำระในห้องน้ำสาธารณะที่ไม่คุ้นเคย และมีแรงดันน้ำสูงเกินไป จนทำให้บริเวณที่โดนแรงดันน้ำอัดจนเกิดอาการเจ็บแสบอยู่หลายวัน และเมื่อตรวจกับแพทย์จึงพบว่า ปลายท่อปัสสาวะอักเสบจากแรงดันน้ำที่มากเกินไปของสายชำระ อาจจะรู้สึกถึงอันตรายของสายชำระเรียบร้อยแล้ว
เราเองพอได้อ่าน ก็พาลให้นึกถึงประสบการณ์ตรงของเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ที่ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันในหอพัก หลังใช้ห้องน้ำเสร็จเธอก็ออกมาบ่นอุบว่า สายชำระในห้องน้ำจะแรงไปไหน (แซวตัวเองเบาๆ ว่า “ถึงกับสะดุ้ง”) แม้ว่าครั้งนั้นเพื่อนจะโชคดีรอดตัวจากอาการอักเสบอันทรมาน แต่เราก็เชื่อว่าน่าจะมีสาวๆ อีกหลายคนเคยมีประสบการณ์คล้ายๆ กันมาบ้าง เลยอยากจะออกมาเตือนถึงอันตรายจากสายชำระกันสักเล็กน้อย
สายชำระในห้องน้ำ ปลอดภัยต่อสุขภาพหรือไม่?
อย่างที่ทราบกันแล้วว่าสายชำระที่แรงดันน้ำสูงเกินไป อาจทำให้ผิวหนัง หรือเนื้อเยื่อที่ละเอียดอ่อนในบริเวณจุดซ่อนเร้นอักเสบได้ แต่นอกจากเรื่องของความดันน้ำแล้ว สายชำระที่ไม่สะอาด ก็อาจทำให้ท่อปัสสาวะอักเสบได้เช่นกัน
ในปี 2555 กรมอนามัยได้สุ่มสำรวจห้องส้วมสาธารณะ เช่น ปั้มน้ำมัน วัด พบว่าจุดที่มีการปนเปื้อนอุจจาระมากที่สุด คือ ที่จับสายฉีดน้ำชำระ โดยพบมากถึงร้อยละ 85 ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่า การใช้สายชำระที่มีการปนเปื้อนอุจจาระ อาจทำให้เราติดโรคจากแบคทีเรีย เชื้อไวรัสต่างๆ ที่มาพร้อมกับอุจจาระได้ เช่น เชื้อโคลิฟอร์ม หรือเชื้ออิโคไล ที่อาจทำให้เกิดโรคกรวยไตอักเสบได้
อย่างไรก็ตาม ศ.นพ.พงษ์ศักดิ์ ชัยศิลป์วัฒนา ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า โอกาสที่ผู้หญิงจะติดเชื้อโรคจากสายชำระในห้องน้ำมี "น้อยมากๆ" เพียงร้อยละ 5-7 เท่านั้น แต่ก็สามารถเป็นได้ ถ้าคนคนนั้นมีภูมิคุ้มกันต่ำ อาทิ เคยมีประวัติเป็นโรคเรื้อรัง ใช้น้ำยาล้าง ใช้แผ่นอนามัย ซึ่งจริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย ดูแลตามธรรมชาติโดยใช้น้ำเปล่าดีที่สุด
คุณหมอยังระบุอีกว่า ส่วนใหญ่ที่มีการติดเชื้อ มักเกิดขึ้นจากความรักสวยรักงามใช้น้ำเปล่าล้างไม่พอ ต้องไปซื้อน้ำยามาล้างให้สะอาดมากขึ้น แล้วน้ำยาก็มาทำลายแบคทีเรียตัวที่ป้องกันเชื้อโรคในช่องคลอด หรือปล่อยให้ระบายอากาศดีๆ ไม่ชอบ ไปหาแผ่นอนามัยมาใช้ ใส่กางเกงชั้นในสเตย์ฟิตๆ กางเกงยีนหนาๆ ให้อบ แฉะ อึดอัด ไม่มีอากาศระบาย
วิธีลดความเสี่ยงในการเกิดอาการท่อปัสสาวะอักเสบ
- อย่าลืมทดสอบการทำงานของสายชำระก่อนใช้จริงทุกครั้ง ทั้งเป็นการเช็กก่อนว่าสายชำระทำงานปกติดีไหม มีน้ำไหลออกมาหรือเปล่า น้ำที่ไหลออกมาสะอาดไหม และแรงดันของน้ำอยู่ในระดับปกติหรือไม่
- ไม่ฉีดน้ำเข้าไปที่ท่อปัสสาวะโดยตรง ควรเลือกฉีดน้ำแบบผ่านๆ ฉีดในมุมเฉียงลง มากกว่าจะจ่อเข้าไปที่บริเวณนั้นโดยตรง
- หากไม่มีสายชำระ หรือสายชำระดูสกปรกไม่น่าใช้ สามารถใช้กระดาษชำระ หรือทิชชู่เปียกซับเบาๆ จากด้านหน้าไปด้านหลัง เช็ดทีเดียวแล้วทิ้ง เปลี่ยนแผ่นใหม่ทันที ไม่ใช้แผ่นเดิมเช็ดซ้ำ
- ลดการใช้แผ่นอนามัย ไม่ควรใช้ทุกวัน เพราะอาจทำให้เกิดการอับชื้นได้
- เปลี่ยนกางเกงในทุกวัน ทุกครั้งหลังอาบน้ำ
- ลดการสวมใส่กางเกงรัดรูป หรือเนื้อผ้าที่ไม่ระบายอากาศ เพราะอาจทำให้อับชื้น และเกิดการเสียดสีได้