วิธีแก้ปัญหา “หูอื้อ” เมื่อต้องโดยสารเครื่องบิน
![วิธีแก้ปัญหา “หูอื้อ” เมื่อต้องโดยสารเครื่องบิน](http://s.isanook.com/he/0/ud/2/11525/ear-hurt-airplane.jpg?ip/crop/w1200h700/q80/jpg)
รศ. นพ. ปารยะ อาศนะเสน
ภาวิชาโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา
Faculty of Medicine Siriraj Hospital
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
โดยปกติร่างกายเรามีท่อยูสเตเชี่ยน ซึ่งเป็นท่อที่ช่วยปรับความดันของหูชั้นกลางให้เท่ากับบรรยากาศภายนอก เมื่อใดที่ท่อนี้ทำงานผิดปกติไป จะทำให้เกิดอาการหูอื้อ ปวดหู มีเสียงดังในหู หรือเวียนศีรษะ บ้านหมุนได้ ตัวอย่างในชีวิตประจำวันที่เราพบได้บ่อยคือ เวลาขึ้นหรือลงลิฟต์เร็วๆ หรือเครื่องบินขึ้นหรือลงเร็วๆ จะมีอาการหูอื้อ ปวดหู
ดังนั้น เราจะทำอย่างไรดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาปวดหูเวลาเครื่องบินขึ้นหรือลง
- เวลาเดินทางควรป้องกันตนเองไม่ให้เป็นหวัด โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายลดลง เช่น เครียด นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ การสัมผัสอากาศที่เย็นมากเกินไป เช่น ขณะนอนเปิดแอร์หรือพัดลมเป่าจ่อ ไม่ได้ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายเพียงพอ การดื่มหรืออาบน้ำเย็น ตากฝน หรือสัมผัสอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากร้อนเป็นเย็นจากเย็นเป็นร้อน หรือมีคนรอบข้างที่ไม่สบายคอยแพร่เชื้อให้
*สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคจมูกหรือไซนัสอักเสบเรื้อรัง ควรป้องกันไม่ให้อาการทางจมูกหรือไซนัสกำเริบ โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการ (เช่น ความเครียด การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ อารมณ์เศร้า วิตกกังวล เสียใจ ของฉุน ฝุ่นควัน อากาศที่เปลี่ยนแปลง และการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจหรือหวัด) เนื่องจากถ้ามีการอักเสบในโพรงจมูก จะส่งผลถึงรูเปิดของท่อยูสเตเชี่ยนซึ่งอยู่ที่โพรงหลังจมูก ทำให้การทำหน้าที่ของท่อยูสเตเชี่ยนผิดปกติไป เกิดปัญหาของหูดังกล่าว
- ถ้ามีอาการทางจมูก เช่น คันจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล และจำเป็นต้องขึ้นเครื่องบิน ควรใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการทางจมูก เช่น รับประทานยาแก้แพ้ ยาหดหลอดเลือด หรือใช้ยาพ่นจมูก อาจร่วมกับการล้างจมูก หรือการสูดไอน้ำร้อน เพื่อทำให้การอักเสบภายในจมูกลดน้อยลง ซึ่งจะส่งผลให้เยื่อบุรอบรูเปิดท่อยูสเตเชี่ยนยุบบวมลง ทำให้ท่อยูสเตเชี่ยนกลับมาทำงานปกติได้เร็วขึ้น เช่น อาจรับประทานยาหดหลอดเลือด (oral decongestant เช่น pseudoephedrine) ก่อนเครื่องบินขึ้นหรือลง ประมาณครึ่งชั่วโมง หรือพ่นยาหดหลอดเลือด (topical decongestant เช่น ephedrine, oxymetazoline) ก่อนเครื่องบินขึ้นหรือลง ประมาณ 5 นาที
- ควรทำให้ท่อยูสเตเชี่ยนทำงานเปิด/ ปิดอยู่ตลอด ระหว่างเครื่องบินขึ้นหรือลง เช่น เคี้ยวหมากฝรั่ง เพื่อให้มีการกลืนน้ำลายบ่อยๆ ซึ่งขณะกลืนน้ำลายจะมีการเปิดและปิดของท่อยูสเตเชี่ยน หรือบีบจมูก2 ข้างและกลืนน้ำลาย 1 ครั้ง (ท่อยูสเตเชี่ยนจะปิด) และเอามือที่บีบจมูกออกและกลืนน้ำลาย 1 ครั้ง (ท่อยูสเตเซียนจะเปิดและปิด) ขณะที่เป็นหวัดหรือไซนัสอักเสบซึ่งมีการติดเชื้อในจมูก ไม่ควรบีบจมูก และเป่าลมให้เข้ารูเปิดของท่อยูสเตเชี่ยน เพราะจะทำให้เชื้อโรคในจมูกเข้าไปสู่หูชั้นกลางได้
- ถ้าได้ป้องกันอาการของหูก่อนขึ้น/ลงเครื่องบินดังข้อ 2 แล้วยังมีอาการทางหูอยู่ อาจพ่นหรือหยอดยาหดหลอดเลือดเข้าไปในจมูกอีกทุก 10 -15 นาที และทำให้ท่อยูสเตเชี่ยนทำงานเปิด/ปิดอยู่ตลอด ดังอธิบายไว้แล้วในข้อ 3 ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาเรื่องหูเวลาขึ้น/ลงเครื่องบิน ควรพกยาหดหลอดเลือดชนิดพ่น และชนิดรับประทานไว้ด้วยเสมอ
เท่านี้ การเดินทางก็จะราบรื่น ปราศจากอาการของหูที่จะรบกวนอีกต่อไป
___________________
อ่านบทความเพิ่มเติม >>>>> SIRIRAJ E-PUBLIC LIBRARY
ขอบคุณเนื้อหาจาก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล