เตือนผู้ปกครองระวัง “โรคมือ เท้า ปาก”
กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนระวังโรคมือ เท้า ปาก ในครึ่งปีแรกพบผู้ป่วยจำนวนกว่า 1.6 หมื่นคน เป็นเด็กเล็กอายุ 1-3 ปี มากถึงร้อยละ 68 เน้นสังเกตอาการบุตรหลานอย่างใกล้ชิดหมั่นทำความสะอาดของใช้ของเล่นถ้าเด็กป่วยให้หยุดรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหาย หากมีอาการ ซึม อ่อนแรง ชักกระตุก มือสั่น เดินเซ หอบ อาเจียน ให้รีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจติดเชื้อชนิดรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้
นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีและโฆษกกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคมือ เท้า ปาก ว่ามักพบโรคนี้ในช่วงหน้าฝน เด็กที่ป่วยจะแสดงอาการป่วย เริ่มด้วยมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ต่อมา 1-2 วัน มีอาการเจ็บปาก เนื่องจากมีตุ่มแดงที่ลิ้น เหงือก และกระพุ้งแก้ม ต่อมาจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้นๆ และมีตุ่มหรือผื่นบริเวณฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า และอาจพบที่ก้นด้วย โดยข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 25 มิถุนายน 2561 พบผู้ป่วยจำนวน 18,579 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยส่วนใหญ่ซึ่งเกินครึ่งเป็นกลุ่มเด็กเล็กอายุ 1-3 ปี (12,602 ราย) คิดเป็นร้อยละ 68 ของผู้ป่วยทั้งหมด
นายแพทย์อัษฎางค์ กล่าวอีกว่า ขอเน้นย้ำผู้ปกครองสังเกตอาการของบุตรหลาน หากพบว่าบุตรหลานมีอาการข้างต้น ให้พิจารณาหยุดเรียนและรักษาจนหาย และควรแจ้งให้ทางโรงเรียนและศูนย์เด็กเล็กทราบ เพื่อทำการค้นหาเด็กที่อาจป่วยเพิ่มเติม ทั้งนี้ หากอาการไม่ดีขึ้น หรือ มีไข้ขึ้นสูง ซึมลง เดินเซ ชัก เกร็ง หายใจหอบเหนื่อย อาเจียนมาก ต้องรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาจติดเชื้อโรคมือ เท้า ปากชนิดรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้
การป้องกันการรับเชื้อโรคมือเท้าปากสามารถทำได้ ดังนี้
- สอนให้บุตรหลานรักษาความสะอาด โดยการล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่ ทั้งก่อนรับประทานอาหารและหลังจากเข้าห้องน้ำ
- หลีกเลี่ยงการนำเด็กเล็กไปในสถานที่ที่มีคนแออัดเช่น ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์สนามเด็กเล่น ตลาด ควรอยู่ในที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
- ดูแลรักษาสุขอนามัยที่ดีให้ถูกสุขลักษณะของสถานที่ อุปกรณ์เครื่องใช้ให้สะอาด อย่างสม่ำเสมอ อาทิ ภาชนะใส่อาหาร ห้องน้ำ ห้องส้วม ของเล่นต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422