7 คุณประโยชน์ของ “บลูเบอร์รี่” ผลไม้ลูกจิ๋วแต่แจ๋วที่สุดในตระกูลเบอร์รี่

7 คุณประโยชน์ของ “บลูเบอร์รี่” ผลไม้ลูกจิ๋วแต่แจ๋วที่สุดในตระกูลเบอร์รี่

7 คุณประโยชน์ของ “บลูเบอร์รี่” ผลไม้ลูกจิ๋วแต่แจ๋วที่สุดในตระกูลเบอร์รี่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บลูเบอร์รี่ (Blueberry) ผลไม้ลูกจิ๋วสีน้ำเงินอมม่วง ที่คุณประโยชน์ไม่จิ๋วเลยแม้แต่น้อย เป็นผลไม้หนึ่งในตระกูลเบอร์รี่ ที่ไม่ว่าจะทานสดๆ หรือเอาไปเป็นส่วนผสมในเมนูอะไรก็อร่อยทั้งนั้น ด้วยรสเปรี้ยวอมหวาน และความชุ่มฉ่ำที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ยิ่งช่วงนี้กระแสฟิตแอนด์เฟิร์มมาแรง สาวๆ ครึ่งค่อนเมืองจึงหันมานิยมทานผลไม้เพื่อดูแลสุขภาพ และเชื่อว่าเจ้าบลูเบอร์รี่ก็ต้องเป็นผลไม้โปรดของใครหลายๆ คน นอกจากอร่อยแล้ว คุณประโยชน์ยังมากเกินตัวกันอีกด้วย

  1. อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

บลูเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูงมาก มากที่สุดในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เลยด้วยซ้ำ การบริโภคผลไม้ชนิดนี้เป็นประจำจึงช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระต่างๆ ที่จะมาทำลายผิวให้เกิดริ้วรอย แถมยังช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออกไป พร้อมเผยผิวใหม่ที่สดใสกว่าเดิมออกมา

 

  1. ช่วยชะลอเซลล์มะเร็ง

การบริโภคบลูเบอร์รี่เป็นประจำ สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมาก จากการทดลองให้ผงบลูเบอร์รี่กับหนูที่เป็นมะเร็งเต้านม ผลการทดลองออกมาว่า ปริมาณเนื้องอกลดลงถึง 40% เลยทีเดียว

 

  1. ช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

เนื่องจากผลไม้ชนิดนี้ มีกากใยสูงถึง 3.6 กรัม และมีแคลอรี่ต่ำ การที่รับประทานผลไม้ที่มีไฟเบอร์สูงๆ แบบนี้จะทำให้เรารู้สึกอิ่มนานขึ้น แถมยังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น จึงถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีมาก สำหรับคนที่ต้องการลดความอ้วน

 

  1. ช่วยบำรุงสมอง

อีกหนึ่งคุณประโยชน์ที่สำคัญมากๆ คือบลูเบอร์รี่สามารถช่วยบำรุงระบบประสาท ทำให้สมองทำงานได้เต็มที่ ทำให้ความจำดีขึ้น อีกทั้งถ้ารับประทานอย่างต่อเนื่องยังสามารถป้องกันโรคความจำเสื่อมในวัยสูงอายุได้อีกด้วย

 

  1. ช่วยย่อยอาหารและระบบขับถ่ายดี

บลูเบอร์รี่มีไฟเบอร์สูงมาก เพราะฉะนั้นจึงมีส่วนช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือถ้าในบางวันที่เราทานเนื้อสัตว์เยอะๆ อาจทำให้เรามีภาวะจุกเสียดแน่นท้องเพราะอาหารไม่ย่อย แนะนำให้ทำบลูเบอร์รี่สมูทตี้ดื่มตามมื้ออาหาร สาร Actinide ที่อยู่ในบลูเบอร์รี่จะเป็นตัวช่วยย่อยโปรตีนได้ดีเลยทีเดียว

 

  1. ช่วยบำรุงหัวใจ

การรับประทานอย่างต่อเนื่อง จะทำให้สามารถลดการแข็งตัวของเลือดและลดไตรกีเซอไรด์ลงได้ หลายคนที่มีภาวะโรคหัวใจ ในผู้ป่วยบางรายแพทย์อาจจ่ายยาที่มีแอสไพรินเพื่อลดการแข็งตัวของเลือด ซึ่งการรับประทานบ่อยเกิดไปอาจมีผลข้างเคียงกับร่างกายหลายอย่าง เพราะฉะนั้นหากรับประทานบลูเบอร์รี่อย่างต่อเนื่องก็สามารถต่อต้านการเกิดภาวะดังกล่าวได้ดีต่อสุขภาพเช่นกัน

 

  1. ช่วยบำรุงเลือด บำรุงผิวพรรณ

บลูเบอร์รี่มีสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ประกอบอยู่ เป็นสารจำพวกฟลาโวนอยด์ที่มีสีแดงอมม่วง สารนี้มีประโยชน์ช่วยทำให้หลอดเลือดแข็งแรง ช่วยทำให้การไหลเวียนของเลือดในระดับที่เล็กมากขึ้น และช่วยในการทำงานของกระบวนการเมตาบอลิซึ่มของเซลล์เรตินา อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินซี จึงช่วยในการบำรุงผิวพรรณให้สดใส เปล่งปลั่ง และแก้มแดงมีเลือดฝาด ดูผิวสวยแบบสุขภาพดีอีกด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook