แพทย์เตือนอาการ "ตาแห้ง" กับเด็กที่จ้องหน้าจอนานเกินไป

แพทย์เตือนอาการ "ตาแห้ง" กับเด็กที่จ้องหน้าจอนานเกินไป

แพทย์เตือนอาการ "ตาแห้ง" กับเด็กที่จ้องหน้าจอนานเกินไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัจจุบัน เด็กๆ ล้วนติดโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต รวมไปถึงอุปกรณ์ที่มีหน้าจออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ปัญหาก็คือ อุปกรณ์เหล่านี้ไม่ดีสำหรับดวงตาของพวกเขา

แพทย์ระบุว่า คนที่ใช้เวลาอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ดวงตาอาจเกิดอาการพร่ามัวเพราะกระพริบตาไม่มากพอในขณะที่กำลังทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการ "ตาแห้ง" ได้

และด้วยความนิยมในวิดีโอเกมและกิจกรรมออนไลน์ในปัจจุบัน อาการตาแห้งจึงกลายเป็นสิ่งที่พบมากขึ้นในหมู่เด็กและวัยรุ่นที่มักเกาะติดอยู่ที่หน้าจอ ซึ่งอาการที่ว่านี้อาจทำให้ดวงตาเกิดความเสียหายอย่างถาวรได้

ศาสตราจารย์ James Wolffsohn ผู้เชี่ยวชาญด้านการวัดสายตาที่มหาวิทยาลัย Aston ในประเทศอังกฤษ เป็นผู้ที่เริ่มเล็งเห็นว่า การใช้งานอุปกรณ์ที่มีหน้าจอต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจอดิจิทัล แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ดวงตาแห้ง

ศาสตราจารย์ James Wolffsohn อธิบายว่า ในน้ำตาของคนเราจะมีน้ำมันเจือปนอยู่ ซึ่งปกติแล้ว ในดวงตาจะมีน้ำตาเคลือบบางๆ อยู่ตลอดเวลา ไม่เพียงแต่ในเวลาที่ร้องไห้เท่านั้น โดยน้ำตาที่เคลือบดวงตามีความบางเพียงหนึ่งในสิบของความหนาของเส้นผมมนุษย์

สำหรับเด็กๆ ที่ใช้เวลาอยู่ตรงหน้าจอนานๆ จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการตาแห้งเพราะกระพริบตาไม่มากพอ เมื่อดวงตาไม่มีการผลิตน้ำตาออกมานานๆ น้ำตาที่ระเหยไปจะทิ้งคราบเกลือเอาไว้ในดวงตาของเรา ซึ่งอาจทำให้ติดเชื้อ หรือมีรวยขีดข่วนได้ รวมทั้งอาจจะทำให้มองอะไรไม่ชัดเจน

นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ Wolffsohn ชี้ว่า เวลาที่เราตั้งอกตั้งใจทำงานอย่างหนักบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ มักจะกะพริบตาน้อยลง หรือแทนที่จะกะพริบอย่างเต็มที่ กลับกะพริบตาแค่บางส่วน ทำให้เกิดความเสียหายที่ด้านหน้าของดวงตาได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีแอพพลิเคชั่นของสมาร์ทโฟนที่สามารถวินิจฉัยอาการตาแห้งได้ แอพพลิเคชั่นนี้ถูกนำไปสาธิตและทดลองใช้ที่กรุงลอนดอน โดยจะถามคำถามง่ายๆ และจะทดสอบว่าคุณสามารถจ้องมองหน้าจอโดยไม่กะพริบตาได้นานแค่ไหน

แต่ศาสตราจารย์ Wolffsohn ตั้งข้อสังเกตว่า การใช้แอพพลิเคชั่นนี้ผ่านหน้าจอของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาได้เช่นกันหากใช้มากเกินไป

และถึงแม้คุณจะไม่มีแอพนี้ และยังไม่สามารถยับยั้งให้ลูกหรือตัวคุณเองเลิกจ้องหน้าจอนานๆ ได้ แพทย์เตือนว่าอย่างน้อยที่สุดคุณก็ยังสามารถป้องกันดวงตาไม่ให้แห้งได้ เพียงแค่จำไว้ว่าต้องกะพริบตาเมื่ออยู่ที่หน้าจอ และควรเตือนลูกๆ ให้ปฎิบัติเช่นเดียวกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook