ป้องกันหวัด ยังไงดี เมื่อคนรอบตัวติดหวัดกันนัวเนียไปหมดแล้ว
ป้องกันหวัด เป็นมาตรการสำคัญที่คุณควรให้ความสนใจ ถ้าคนรอบตัวติดหวัดกันงอมแงมแล้ว เพราะไข้หวัดนั้นสามารถติดต่อจากคนหนึ่งมายังอีกคนหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว และนี่คือสิ่งที่คุณต้องทำถ้าไม่อยากโดนไข้หวัดโจมตี
อยู่ให้ห่างจากคนเป็นหวัด
เชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดไข้หวัดจะอาศัยอยู่ในสารคัดหลั่งบริเวณทางเดินหายใจ ซึ่งจะล่องลอยไปในอากาศได้ถ้ามีการไอหรือจาม โดยจะล่องลอยไปในอากาศได้ไกลถึงสามฟุตก่อนจะตกลงพื้น ฉะนั้นคนที่เป็นไข้หวัดแล้วไอหรือจาม ก็อาจทำให้อากาศที่อยู่รอบตัวเข้ามีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่ได้ ฉะนั้นคุณจึงไม่ควรเข้าใกล้คนป่วยอย่างน้อยๆ ก็สามฟุตเลยนะ
อย่านำมือไปสัมผัสกับใบหน้า
รวมทั้งในบริเวณปากและจมูกด้วย การสัมผัสสิ่งที่ปนเปื้อนนั้นไม่ก่อให้เกิดอาการไข้หวัดขึ้นมาได้ เนื่องจากเชื้อไวรัสชนิดนั้นจะไม่ทำให้ผิวเกิดการติดเชื้อ แต่ถ้าเชื้อพวกนี้เข้าไปอยู่ในเยื่อเมือกในบริเวปากหรือจมูกได้ล่ะก็ คุณก็จะติดหวัดได้อย่างแน่นอน และถ้าเชื้อไวรัสขึ้นมาเกาะอยู่บนผิวหน้า คุณก็มีความเสี่ยงสูงที่จะติดหวัดได้ด้วย
ทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้
เพราะเชื้อหวัดสามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวมันเองถึง 24 ชั่วโมง ฉะนั้นข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านก็อาจมีเชื้อหวัดปนเปื้อนได้ ถ้าคุณอาศัยอยู่บ้านเดียวกันกับผู้ป่วย นอกจากนี้คนที่ติดเชื้อหวัดประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ อาจจะไม่มีอาการอะไรเลยก็ได้ แต่เป็นพาหะที่ทำให้เกิดการติดต่อกันได้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณถึงต้องทำความสะอาดที่ชาร์จมือถือ ที่จับประตูตู้เย็น รวมทั้งสวิทช์ปิดเปิดไฟ อย่างน้อยๆ ก็วันละครั้ง
ล้างมือให้สะอาด
คุณควรล้างมือให้สะอาดหลังแตะต้องอะไรที่ต้องใช้ร่วมกันภายในบ้านหรือออฟฟิศ ไม่ว่าจะเป็นสวิทช์ปิดเปิดไฟ คีย์บอร์ด ตู้กดน้ำ หรืออุปกรณ์อื่นใดที่ต้องใช้ร่วมกัน โดยใช้น้ำกับสบู่ในการล้างมือ และต้องถูมือให้เกิดฟองอย่างน้อยๆ ก็ 20 วินาที จากนั้นก็ล้างน้ำให้สะอาด เสร็จแล้วจะปล่อยให้แห้งเอง หรือใช้ผ้าขนหนูซับให้แห้งก็ได้ ในกรณีที่หาอ่างล้างมือไม่ได้ ก็สามารถใช้เจลทำความสะอาดมือแบบไม่ใช้น้ำก็ได้ แต่ต้องมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่อย่างน้อย 60 เปอร์เซ็นต์
ใส่ถุงมือยางถ้าต้องดูแลผู้ป่วย
เวลาที่อยู่ในสถานพยาบาลนั้น แพทย์และพยาบาลมักจะใส่ถุงมือยางและหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง เพื่อป้องกันการสัมผัสกับสารคัดหลั่งที่ปนเปื้อนเชื้อโรค ฉะนั้น คุณก็ควรใช้มาตรการเดียวกันนี้ในการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน แล้วอย่าลืมล้างมือบ่อยๆ ด้วย
ปิดหน้าต่าง
ถึงแม้ว่าการเปิดหน้าต่างออฟฟิศจะช่วยให้มีการระบายอากาศได้ดี ยามที่มีเพื่อนร่วมงานห้องข้างๆ ติดหวัดอยู่ แต่จริงๆ แล้วนั่นอาจทำให้คุณสูดอากาศที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนอยู่เข้าไปได้ ก็อย่างที่บอกไปแล้วนั่นแหละว่า เชื้อหวัดสามารถล่องลอยขึ้นไปในอากาศได้ไกลถึงสามฟุต ฉะนั้น ถ้าคุณเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ ก็เท่ากับเปิดทางให้เชื้อหวัดเข้ามาโจมตีคุณได้ง่ายๆ
ล้างถ้วยล้างชามเอง
นับเป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกันนะที่จะหลีกเลี่ยงการติดเชื้อหวัด เมื่อคุณต้องอาศัยในบ้านเดียวกับผู้ที่เป็นหวัด แต่ถ้าคุณทำงานบ้านบางอย่างเอง อย่างเช่น การล้างถ้วยชามด้วยตัวเอง ก็จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่เชื้อหวัดจากผู้ป่วยจะมาเกาะอยู่บนถ้วยชาม แล้วเข้าไปอยู่ในปากของคุณเองในที่สุด ฉะนั้น ให้ผู้ป่วยนอนพักไป ส่วนคุณก็ทำความสะอาดโน่นนี่ไป
นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอนั้นนับเป็นพฤติกรรมที่ดี ที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างเป็นปกติ และช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจอย่างเชื้อหวัดได้ด้วย ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วผู้ใหญ่ควรนอนให้ได้ 7 ถึง 9 ชั่วโมงต่อคืน
อย่าเครียด
คุณควรรู้เอาไว้ด้วยนะว่าความเครียดก็ทำให้คุณเกิดอาการเจ็บป่วยได้เหมือนกัน โดยมีรายงานว่าคนที่มีความเครียดทางจิตใจนั้น จะสร้างสารภูมิต้านทานขึ้นมาโต้ตอบกับวัคซีนไข้หวัดได้น้อยลง โดยงานศึกษาวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Brain, Behavior and Immunity เมื่อปี 2009 ระบุว่านับเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องทำจิตใจให้สบายในช่วงที่มีไข้หวัดระบาด เพราะไม่เช่นนั้นก็จะมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อหวัดได้ง่าย