วิตามินดี ป้องกันโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 ได้จริงหรือ?
ในปัจจุบัน มีงานวิจัยที่เสนอแนะว่าการรับประทานวิตามินดี สามารถช่วย ป้องกันโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 ได้ ข้อเสนอนี้เป็นจริงหรือไม่ เรามีข้อมูลในเรื่องนี้
อินซูลินคืออะไร
อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่สร้างโดยเซลล์เบต้าจากตับอ่อน เป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญต่อสุขภาพ โดยการช่วยการดูดซึมกลูโคสที่เข้าสู่กระแสเลือด ไปสู่เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อต่างๆ และตับ กล่าวคือ อินซูลินควบคุมวิธีการที่ร่างกายใช้ และสำรองกลูโคส
อินซูลินกับโรคเบาหวานชนิดที่ 2
ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ไม่สามารถทั้งผลิตอินซูลิน เพื่อจัดการกับปริมาณกลูโคสที่รับประทานเข้าไป หรือร่างกายไม่รับอินซูลินที่ร่ายกายผลิตขึ้นมาเอง ผลก็คือ เมื่อไม่สามารถควบคุมกลูโคสได้ ปริมาณกลูโคสจะสะสมเพิ่มขึ้นในกระแสเลือด ทำให้เกิดภาวะเบาหวาน ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 อาจมีอาการต่างๆ เช่น สายตาไม่ดี มีปัญหาผิว และความดันโลหิตสูง
การเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่ง อาการต่างๆ และความรุนแรงเพิ่มขึ้นตามระยะเวลา โดยปกติแล้ว คนส่วนใหญ่ที่น้ำหนักเกินมักตรวจพบโรคเบาหวานชนิดที่ 2
วิตามินดีกับโรคเบาหวานชนิดที่ 2
เป็นที่รู้กันดีว่า วิตามินดีมีประโยชน์ในการผลิตแคลเซียม ซึ่งในทางกลับกัน วิตามินดียังช่วยจัดการปริมาณน้ำตาลในเลือดได้ด้วย
ในปัจจุบัน นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ตั้งข้อสังเกต เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างการรับวิตามินดี กับโรคเบาหวานชนิดที่ 2 พวกเขาสงสัยว่า วิตามินดีสามารถช่วยลดโอกาส หรือความรุนแรงของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้จริงหรือไม่
จนถึงทุกวันนี้ ยังมีงานวิจัยบางส่วนที่ระบุว่า คนวัยหนุ่มสาวที่มีระดับวิตามินดีสูงกว่า มีความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 น้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่มีปริมาณวิตามินดีในร่างกายน้อยกว่า
การเพิ่มวิตามินดีในแต่ละวัน
จากดวงอาทิตย์
แสงอาทิตย์ถือว่าเป็นแหล่งวิตามินดีที่ใหญ่ที่สุด การอยู่กลางแจ้งเพื่อรับแสงอาทิตย์ในตอนเช้า ช่วยให้ร่างกายรับวิตามินดี อย่างไรก็ตาม การอยู่กลางแดดมากเกินไป จะทำให้เกิดปัญหาผิวได้ ดังนั้น คุณจึงควรระมัดระวังเกี่ยวกับเวลา และระยะเวลาในการรับแสงอาทิตย์ช่วงเช้าด้วย
จากอาหาร
แหล่งวิตามินดีที่สำคัญจากอาหาร ได้แก่ ไข่ขาว ตับวัว ส้ม ธัญพืช ชีส และปลาที่มีกรดไขมันจำเป็นสูง การรับประทานอาหารที่มีวิตามินดีสูง สามารถช่วยเพิ่มปริมาณวิตามินดีในร่างกายได้
จากแหล่งอื่นๆ
อาหารเสริมวิตามินดีและน้ำมันปลา เป็นอีกหนึ่งแหล่งที่ให้วิตามินดี อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารเสริม ควรปรึกษาจากแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสมสำหรับแต่ละคน