ยารักษาความดันโลหิตสูง ทำให้เป็น "มะเร็งเต้านม" ได้จริงหรือ?

ยารักษาความดันโลหิตสูง ทำให้เป็น "มะเร็งเต้านม" ได้จริงหรือ?

ยารักษาความดันโลหิตสูง ทำให้เป็น "มะเร็งเต้านม" ได้จริงหรือ?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มีการศึกษาที่ชี้ว่า ยารักษาความดันโลหิตสูง กลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ ในระยะยาว อาจทำให้ผู้หญิงเป็นมะเร็งเต้านมได้ คุณต้องเป็นกังวลหรือเปล่า? เรามีข้อมูลในเรื่องนี้มาให้คุณแล้ว

ยารักษาความดันโลหิตกับมะเร็งเต้านม

การศึกษาก่อนหน้านี้

เมื่อปี 2013 มีการตีพิมพ์ผลการศึกษาจาก Fred Hutchinson Cancer Research Center ซึ่งสังเกตเห็นว่า การใช้ยากลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ (calcium channel blockers) ระยะยาวในปัจจุบัน อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งเต้านมในผู้หญิงบางราย ในเวลานั้น เป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมากเนื่องจากยากลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ เป็นยาชนิดหนึ่งที่นิยมใช้กันมากในประเทศสหรัฐอเมริกา ยากลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ เป็นยารักษาความดันโลหิตสูงประเภทหนึ่งที่ใช้กันโดยทั่วไป ยานี้ใช้เพื่อป้องกันแคลเซียมไม่ให้เข้าไปยังเซลล์ต่างๆ ของหัวใจและผนังหลอดเลือด ส่งผลให้ความดันโลหิตลดต่ำลง ได้แก่ ยาแอมโลดิปีน (Amlodipine) อย่างเช่น Norvasc®, ยาดิลไทอาเซม (Diltiazem) อย่างเช่น Cardizem LA® และ Tiazac®, ยาไอซราดิพีน (Isradipine) อย่างเช่น DynaCirc CR®, ยาไนคาร์ดิพีน (Nicardipine) อย่างเช่น Cardene SR®, ยาไนเฟดิพีน (Nifedipine) อย่างเช่น Procardia®, Procardia XL® และ Adalat CC®), ยาไนโซลดิปีน (Nisoldipine) อย่างเช่น Sular® และยาเวราพามิล (Verapamil) อย่างเช่น Calan®, Verelan® และ Covera – PM®

อย่างไรก็ดี การศึกษาแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ แต่ไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงสาเหตุและผลลัพธ์ ระหว่างยาต่างๆ กับมะเร็งเต้านม

การศึกษาในปัจจุบัน

ต่อมาในปี 2014 การศึกษาที่กว้างขึ้นโดย ศูนย์การแพทย์ Intermountain ของสถาบันหัวใจ ในเมืองเมอร์เรย์ รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เผยว่า ยากลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ไม่สัมพันธ์กับมะเร็งเต้านม โดยการศึกษาได้วิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บได้จากผู้หญิงจำนวนมากกว่า 3,700 รายในช่วงอายุ 50 ถึง 70 ปี ซึ่งไม่มีประวัติเคยเป็นมะเร็งเต้านม ใน Intermountain Healthcare Center จำนวน 2 แห่ง สำหรับแต่ละกลุ่ม นักวิจัยได้เปรียบเทียบผู้หญิงกลุ่มที่ใช้ยากลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ เป็นเวลาหลายปี กับกลุ่มที่ไม่ใช้ยาดังกล่าว จากการตรวจสอบฐานข้อมูลประวัติการรักษาของประชากรโดยทั่วไป นักวิจัยพบว่า โอกาสที่เป็นไปได้ในการเป็นมะเร็งเต้านม จากการใช้ยากลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ มีค่าสูงขึ้น 1.6 เท่า ความเสี่ยงดังกล่าวมีค่าสูงค่าค่าเฉลี่ยเพียงเล็กน้อย แต่มีค่าต่ำกว่าการศึกษาในปี 2013 เป็นอย่างมาก ในอีกทางหนึ่ง จากข้อมูลที่เก็บจากผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาใน Intermountain Cardiac Catheterization Laboratory ความสัมพันธ์ในเชิงกลับกันพบการลดลง 50% ของความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม สำหรับผู้หญิงที่ใช้ยากลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ ดังนั้น ผลที่ขัดแย้งกันที่พบในฐาข้อมูลทั้งสองรายการ พิสูจน์ยาไม่ได้เป็นสาเหตุของความเปลี่ยนแปลง ที่เกี่ยวกับความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม แต่เป็นปัจจัยในด้านอื่นๆ

 

วิธีลดความเสี่ยง

ในความเป็นจริงแล้ว ปัจจัยเสี่ยงบางประการสำหรับความดันโลหิตสูง ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับมะเร็งเต้านมด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ ภาวะน้ำหนักเกิน การออกกำลังกายไม่เพียงพอ การสูบบุหรี่ และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ต่อไปนี้เป็นข้อควรปฏิบัติบางประการ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยง และรักษาหัวใจและหน้าอกของคุณให้อยู่ในสภาวะที่ดีที่สุด ได้แก่

  • ลดอาหาร

  • ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ระลึกไว้ว่า ผู้หญิงที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สองแก้ว หรือมากกกว่าต่อวัน มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นในการเป็นมะเร็งเต้านม

  • ออกกำลังกาย

  • ไม่สูบบุหรี่

และหากคุณกำลังใช้ยากลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ ให้ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook