ยารักษาความดันโลหิตสูง ทำให้เป็น "มะเร็งเต้านม" ได้จริงหรือ?
มีการศึกษาที่ชี้ว่า ยารักษาความดันโลหิตสูง กลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ ในระยะยาว อาจทำให้ผู้หญิงเป็นมะเร็งเต้านมได้ คุณต้องเป็นกังวลหรือเปล่า? เรามีข้อมูลในเรื่องนี้มาให้คุณแล้ว
ยารักษาความดันโลหิตกับมะเร็งเต้านม
การศึกษาก่อนหน้านี้
เมื่อปี 2013 มีการตีพิมพ์ผลการศึกษาจาก Fred Hutchinson Cancer Research Center ซึ่งสังเกตเห็นว่า การใช้ยากลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ (calcium channel blockers) ระยะยาวในปัจจุบัน อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งเต้านมในผู้หญิงบางราย ในเวลานั้น เป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างมากเนื่องจากยากลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ เป็นยาชนิดหนึ่งที่นิยมใช้กันมากในประเทศสหรัฐอเมริกา ยากลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ เป็นยารักษาความดันโลหิตสูงประเภทหนึ่งที่ใช้กันโดยทั่วไป ยานี้ใช้เพื่อป้องกันแคลเซียมไม่ให้เข้าไปยังเซลล์ต่างๆ ของหัวใจและผนังหลอดเลือด ส่งผลให้ความดันโลหิตลดต่ำลง ได้แก่ ยาแอมโลดิปีน (Amlodipine) อย่างเช่น Norvasc®, ยาดิลไทอาเซม (Diltiazem) อย่างเช่น Cardizem LA® และ Tiazac®, ยาไอซราดิพีน (Isradipine) อย่างเช่น DynaCirc CR®, ยาไนคาร์ดิพีน (Nicardipine) อย่างเช่น Cardene SR®, ยาไนเฟดิพีน (Nifedipine) อย่างเช่น Procardia®, Procardia XL® และ Adalat CC®), ยาไนโซลดิปีน (Nisoldipine) อย่างเช่น Sular® และยาเวราพามิล (Verapamil) อย่างเช่น Calan®, Verelan® และ Covera – PM®
อย่างไรก็ดี การศึกษาแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ แต่ไม่ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงสาเหตุและผลลัพธ์ ระหว่างยาต่างๆ กับมะเร็งเต้านม
การศึกษาในปัจจุบัน
ต่อมาในปี 2014 การศึกษาที่กว้างขึ้นโดย ศูนย์การแพทย์ Intermountain ของสถาบันหัวใจ ในเมืองเมอร์เรย์ รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เผยว่า ยากลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ไม่สัมพันธ์กับมะเร็งเต้านม โดยการศึกษาได้วิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บได้จากผู้หญิงจำนวนมากกว่า 3,700 รายในช่วงอายุ 50 ถึง 70 ปี ซึ่งไม่มีประวัติเคยเป็นมะเร็งเต้านม ใน Intermountain Healthcare Center จำนวน 2 แห่ง สำหรับแต่ละกลุ่ม นักวิจัยได้เปรียบเทียบผู้หญิงกลุ่มที่ใช้ยากลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ เป็นเวลาหลายปี กับกลุ่มที่ไม่ใช้ยาดังกล่าว จากการตรวจสอบฐานข้อมูลประวัติการรักษาของประชากรโดยทั่วไป นักวิจัยพบว่า โอกาสที่เป็นไปได้ในการเป็นมะเร็งเต้านม จากการใช้ยากลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ มีค่าสูงขึ้น 1.6 เท่า ความเสี่ยงดังกล่าวมีค่าสูงค่าค่าเฉลี่ยเพียงเล็กน้อย แต่มีค่าต่ำกว่าการศึกษาในปี 2013 เป็นอย่างมาก ในอีกทางหนึ่ง จากข้อมูลที่เก็บจากผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาใน Intermountain Cardiac Catheterization Laboratory ความสัมพันธ์ในเชิงกลับกันพบการลดลง 50% ของความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม สำหรับผู้หญิงที่ใช้ยากลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ ดังนั้น ผลที่ขัดแย้งกันที่พบในฐาข้อมูลทั้งสองรายการ พิสูจน์ยาไม่ได้เป็นสาเหตุของความเปลี่ยนแปลง ที่เกี่ยวกับความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านม แต่เป็นปัจจัยในด้านอื่นๆ
วิธีลดความเสี่ยง
ในความเป็นจริงแล้ว ปัจจัยเสี่ยงบางประการสำหรับความดันโลหิตสูง ถือเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับมะเร็งเต้านมด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ ภาวะน้ำหนักเกิน การออกกำลังกายไม่เพียงพอ การสูบบุหรี่ และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ต่อไปนี้เป็นข้อควรปฏิบัติบางประการ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยง และรักษาหัวใจและหน้าอกของคุณให้อยู่ในสภาวะที่ดีที่สุด ได้แก่
- ลดอาหาร
- ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ระลึกไว้ว่า ผู้หญิงที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สองแก้ว หรือมากกกว่าต่อวัน มีความเสี่ยงที่สูงขึ้นในการเป็นมะเร็งเต้านม
- ออกกำลังกาย
- ไม่สูบบุหรี่
และหากคุณกำลังใช้ยากลุ่มแคลเซียมแชนแนลบล็อกเกอร์ ให้ปรึกษาแพทย์สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม