สูบบุหรี่ควบดื่มเหล้า เสี่ยง "มะเร็งช่องปาก" 15 เท่า

สูบบุหรี่ควบดื่มเหล้า เสี่ยง "มะเร็งช่องปาก" 15 เท่า

สูบบุหรี่ควบดื่มเหล้า เสี่ยง "มะเร็งช่องปาก" 15 เท่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รู้จัก "มะเร็งช่องปาก"

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า โรคมะเร็งช่องปากเป็นมะเร็งชนิดที่พบมากเป็นอันดับ 6 ของโรคมะเร็งทั้งหมด สำหรับประเทศไทย จากการสำรวจของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขปี 2558 พบมะเร็งช่องปากมากเป็นอันดับ 6 ของผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ทั้งหมด ซึ่งร้อยละ 95 ของมะเร็งช่องปากที่พบเป็นชนิดสแควมัสเซลล์คาร์ซิโนมา(squamous cell carcinoma) ที่มีความรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยมีอัตราการตายสูงมากกว่าร้อยละ 90 โรคนี้จึงเป็นปัญหาสำคัญทางการแพทย์ที่มีผลกระทบโดยตรงกับสุขภาพของผู้ป่วย รวมถึงครอบครัวและสังคม ในแต่ละปีรัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณในการดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก

 

อาการของโรคมะเร็งช่องปาก

ศาสตราจารย์ทันตแพทย์ ดร.อะนัฆ เอี่ยมอรุณ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ปรึกษาโครงการคัดกรองรอยโรคก่อนมะเร็งช่องปากของโครงการทันตแพทย์ไทยต้านภัยยาสูบ กล่าวว่า มะเร็งช่องปาก สามารถพบได้ทุกอวัยวะในช่องปาก ได้แก่ ลิ้น กระพุ้งแก้ม ริมฝีปาก เหงือก เพดานปาก พื้นช่องปากใต้ลิ้น

4 สัญญาณเตือนของรอยโรคมะเร็งช่องปากระยะแรกที่สามารถสังเกตได้ง่ายๆ คือ "แดง ขาว แผล ก้อน" ได้แก่

  1. รอยโรคสีแดงหรือแดงปนขาวเกิดขึ้นที่เนื้อเยื่อ ช่องปาก

  2. มีแผ่นฝ้าสีขาวเช็ดไม่ออกบริเวณเนื้อเยื่อช่องปาก

  3. มีแผลเรื้อรังในช่องปากที่เป็นแล้วไม่หายภายใน 2 สัปดาห์

  4. มีก้อนในช่องปาก มีลักษณะแข็งเป็นไต ไม่มีอาการเจ็บ

นอกจากนี้ยังมีสัญญาณเตือนอื่นๆของมะเร็งช่องปากระยะแรกที่สามารถสังเกตได้อีก เช่น มีอาการเจ็บคอเรื้อรัง เสียงแหบ กลืนลำบาก มีอาการชาที่ลิ้น ฟันปลอมที่เคยใส่ใช้ไม่ได้ หรือไม่พอดีเหมือนเดิม หากมีอาการดังกล่าวหรือตรวจช่องปากดูแล้วพบว่ามีลักษณะที่น่าสงสัยต่อการเกิดมะเร็งช่องปาก ให้รีบไปพบแพทย์หรือ ทันตแพทย์เพื่อรับการตรวจที่สถานพยาบาลใกล้บ้านทันที

 

ปัจจัยเสี่ยงต่อโรคมะเร็งช่องปาก

ปัจจัยเสี่ยงที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งช่องปากอันดับต้นๆ คือการสูบบุหรี่ รวมถึง ยาเส้น และดื่มเหล้า แต่หากสูบบุหรี่ร่วมกับการดื่มเหล้าจะมีความเสี่ยงมะเร็งช่องปากเพิ่มขึ้นถึง 15 เท่า นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆอีกได้แก่ การเคี้ยวหมาก การติดเชื้อไวรัส HPV กินผักและผลไม้น้อย การบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูป การมีอนามัยช่องปากไม่ดี เป็นต้น โดยกลุ่มเสี่ยงของการเกิดโรคนี้คือ ผู้ที่อายุ 40 ปี ขึ้นไป มีประวัติสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เคี้ยวหมาก หรือบุคคลในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคมะเร็ง

 

การป้องกัน และลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งช่องปาก

การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรค รวมทั้งการไปรับการตรวจคัดกรองรอยโรคก่อนมะเร็งโดยทันตแพทย์ หรือทันตบุคลากรอย่างน้อยปีละครั้งหรือการตรวจรอยโรคก่อนมะเร็งด้วยตนเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook