แพทย์เตือน! 5 ไลฟ์สไตล์มรณะ เสี่ยง "มะเร็งเต้านม"
โรคมะเร็งเต้านมยังคงรั้งอันดับเป็นโรคมะเร็งร้าย ที่พบมากที่สุดในผู้หญิงไทยและทั่วโลก ในประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมมากถึงร้อยละ 39.43 โดยพบมากที่สุดในช่วงอายุ 55 ปี
รศ.นพ.นรินทร์ วรวุฒิ อาจารย์ พิเศษคณะแพทยศาสตร์ และคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ร้อยละ 95 ของผู้ป่วย มักเป็นโรคมะเร็งเต้านมที่มีสาเหตุจากท่อน้ำนม โดยอาจเกิดจากปัจจัยเสี่ยงหลายอย่าง อาทิ ฮอร์โมนเพศหญิง พันธุกรรม โดยมีข้อมูลที่บ่งชี้ว่าหากมีคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งเต้านม ก็จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากกว่าคนทั่วไปถึงจำนวน 1 ใน 3
นอกจาก สาเหตุข้างต้นแล้วปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเต้านมที่ไม่ควร ละเลยอย่างยิ่งคือรูปแบบการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้หญิงในยุคปัจจุบัน ที่มุ่งแต่การทำงานเพื่อตามล่าเป้าหมายในชีวิต โดยไม่ได้ให้ความสนใจกับการดูแลสุขภาพของตนเองเท่าที่ควร ที่มีชื่อเรียกว่า “ไลฟ์สไตล์มรณะ” ซึ่งมีดังต่อไปนี้
- เผชิญภาวะความเครียด ท่ามกลางเศรษฐกิจที่แปรผันตลอดเวลา การแข่งขันทางอาชีพที่เพิ่มสูงขึ้น หรือแม้แต่เป้าหมายในการทำงานที่เพิ่งได้รับจากเจ้านาย ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งให้มีความกดดัน วิตกกังวล จนส่งผลเสียต่อสภาพร่างกายได้อย่างง่ายดาย
- เร่งทำงานดึกดื่น จากความกดดันในการทำงานให้เป็นไปตามที่ได้รับมอบหมาย แต่กลับโชคร้ายที่ ต้องรีบทำงานภายในเวลาที่จำกัด จนต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำและเป็นสาเหตุให้ไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ
- ออฟฟิศซินโดรม กลุ่มอาการประจำตัวของมนุษย์ออฟฟิศที่ทุ่มเทเวลาและแรงกายในการทำงาน ทั้งนั่งประจำที่ จ้องหน้าคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ จนเริ่มมีอาการปวดตามหลัง ไหล่ คอ ปวดหัว ปวดตา
- ชื่นชอบอาหารจานด่วน ด้วยข้อจำกัดด้านเวลาและก็ยังให้รสชาติที่ถูกปากอาหารจานด่วนจึงเป็นที่นิยม อยู่เสมอ แต่หากรับประทานบ่อยเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย เพราะส่วนมากอาหารเหล่านี้อาจจะมีสารอาหารที่ไม่ครบถ้วนมากนัก มีกรรมวิธีการทำที่ใช้การทอดโดยใช้น้ำมันเป็นหลัก หรือมีปริมาณโซเดียมสูงมาก เป็นต้น
- ไม่สนใจการออกกำลังกาย ทั้งที่แท้จริงแล้วคือพื้นฐานสำคัญและวิธีการที่ง่ายดายในการเสริมสร้างให้ สุขภาพมีความแข็งแรง และสามารถช่วยให้จิตใจผ่องใสได้อีกด้วย ซึ่งมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่พบว่าการออกกำลังกายอย่างน้อย 4 ครั้ง / สัปดาห์ สามารถช่วยเลี่ยงอัตราเสี่ยงมะเร็งเต้านมได้อีกด้วย
สำหรับผู้ที่กังวลว่าตนเองอาจอยู่ใน กลุ่มความเสี่ยงสามารถเริ่มต้นตรวจสอบตนเองได้อย่างง่ายๆ ด้วยการคลำเต้านมอย่างน้อยเดือนละครั้ง โดยใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง คลำสลับขึ้นลงและไปมาให้ทั่วทั้งเต้านม ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการคลำเต้า นมหาความผิดปกติคือช่วงหลังประจำเดือนหมดลงประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะเป็นช่วงที่เต้านมจะอยู่ในสภาวะปกติที่สุด หากว่าสามารถสังเกตถึงความผิดปกติของตนเองได้อย่างรวดเร็วก็จะทำให้ผลการ รักษาเป็นไปได้อย่างดีมากยิ่งขึ้น
ผู้ที่พบว่าตนเองเป็นมะเร็งเต้านมแล้ว ไม่ต้องเป็นกังวลมากนัก แต่ควรตั้งสติ เตรียมพร้อมในการรักษาและศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งเต้านมอย่างถ่องแท้ ปัจจุบัน แนวทางการรักษามีวิวัฒนาการก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีความแตกต่างกันไปตามแต่ระยะของโรคและชนิดของมะเร็งเต้านม ได้แก่ การผ่าตัด การฉายรังสี การรักษาด้วยยา ทั้งยาต้านฮอร์โมน ยาเคมีบำบัด และยารักษาแบบมุ่งเป้า ที่ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจได้ว่าจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ต่อไป
>> “เสาวรส” ทานมาก เสี่ยง “มะเร็งเต้านม” จริงหรือ?
>> วิธีเช็ก "มะเร็งเต้านม" ด้วยตัวเอง
>> "เคมีบำบัด" ไม่จำเป็นต่อผู้ป่วย "มะเร็งเต้านม" ทุกคนเสมอไป
>> 9 สาเหตุ “มะเร็งเต้านม” โรคที่คร่าชีวิตชาวไทยจำนวนไม่น้อยทุกปี