6 สัญญาณที่บอกว่าคุณกำลังเครียดจนเกินรับมือไหว
เมื่อเราต้องอยู่ในสังคมที่เพิ่มความเคร่งเครียดขึ้นทุกวัน เพราะต่างก็ต้องต่อสู้ เพื่อความอยู่รอด จนกระทั่งมีประโยคแห่งยุคสมัยที่ว่า “อ่อนแอ ก็แพ้ไป” ซึ่งทำให้การใช้ชีวิตทุกวันนี้ คนที่ไม่พร้อมจะต่อสู้ หรือไม่กล้าที่จะตอบโต้ กลายเป็นคนอ่อนแอ และต้องถูกย่ำยีตลอดเวลา จนกระทั่งเกิดคำขึ้นอีกคำที่ว่า “โลกทำให้ฉันร้าย” ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นสภาพจิตใจของคนในสังคม ที่ต้องเผชิญหน้ากับความเคร่งเครียดอยู่ตลอดเวลา และบางคนนั้นอาจมากจนเกินรับมือไหว ดังนั้น คงจะดีกว่าถ้าเราสังเกตตนเอง แล้วดูว่า ความเครียดของเราในเวลานี้ อยู่ในระดับเกินจะทนหรือยัง
-
วัดความเครียดของคุณจากการนอน
โดยปกติแล้วมนุษย์ต้องการการพักผ่อน 7-8 ชั่วโมง/วัน คนที่ไม่มีความเครียดอะไร ก็สามารถนอนหลับพักผ่อนได้เป็นปกติ แต่สำหรับคนที่มีความเครียด หรือมีความกังวลใจ หรืออยู่ในอาการซึมเศร้าจนเกินรับมือไหวนั้น มักจะนอนไม่ค่อยหลับ พลิกตัวไปมาตลอดเวลานอน ถ้าวันนี้ คุณรู้สึกว่า การนอนของคุณผิดปกติกว่าที่เคย ลองสำรวจดูหน่อยว่า มีความเครียดใดคั่งค้างอยู่ในใจ ลองหาทางรับมือกับเรื่องดังกล่าว และทางที่ดีที่สุด คือ การเดินเข้าไปขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
-
ความเครียดทำให้การกินของคุณเปลี่ยนไป
คนที่สุขภาพดี ร่างกายไม่มีโรคภัย สภาพจิตใจก็จะดีตาม และเหนืออื่นใด พวกเขาก็จะเลือกกินแต่ของที่ดีและมีประโยชน์ต่อตนเอง แต่คนที่ต้องอยู่ภายใต้ความกดดัน ทุกอย่างรอบตัวเร่งรีบไปหมด พวกเขาจะชอบกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เพราะต้องการความเร็ว หรือไม่ก็กินของหวานมากจนเกินไป เพราะความเครียด หรือการนอนหลับไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายต้องการน้ำตาลเพิ่มมากขึ้น เมื่อคุณรู้สึกว่า วิถีการกินของตนเองเปลี่ยนไป ลองหยุดคิดสักนิด แล้วกลับมาเริ่มต้นใหม่ กับการรักษาสุขภาพการกินของตนเอง เพื่อทำให้สุขภาพกายดี และแน่นอนว่า สุขภาพใจ ก็จะดีตามไปด้วยเช่นกัน
-
คุณรู้สึกหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา
ไม่ว่า จะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่แค่ไหน คุณก็สามารถหงุดหงิดได้ตลอดเวลา แม้จะไม่ใช่วันนั้นของเดือน คุณรู้สึกว่าโลกทั้งโลกไม่มีความยุติธรรมให้กับคุณเลย ทั้งหมดเป็นความเครียดที่สะสมจากการทำงาน จากคนในครอบครัว ทำให้คุณหงุดหงิดไปกับทุกสิ่ง กลายเป็นคนที่เกรี้ยวกราดได้ง่าย ถ้าคุณกำลังตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ขอให้ลองปรึกษาจิตแพทย์ เพราะปัญหาทางด้านอารมณ์นั้น ส่งผลต่อร่างกายเป็นอย่างยิ่ง อย่าได้คิดว่าเป็นเรื่องปกติ
-
คุณเริ่มข้องเกี่ยวหรือใช้สารเสพติด
สารเสพติดในที่นี้ หมายถึง การเริ่มต้นจากบุหรี่ เหล้า แล้วค่อยเพิ่มความรุนแรงไปถึงสารเสพติดชนิดอื่น ที่คุณต้องพึ่งพาสิ่งเสพติด หรือสารเสพติดเหล่านี้ เป็นเพราะคุณต้องการจะหนีจากความเครียด หรือความเจ็บปวดที่คุณต้องเจอ ซึ่งวิธีการนี้ ไม่ได้ช่วยให้ปัญหาของคุณบรรเทาลง แต่จะทำให้คุณแย่ยิ่งกว่าเดิม ดังนั้น เมื่อเริ่มรู้ว่า ตนเองเข้าไปข้องเกี่ยวกับสารเสพติด หรือสิ่งเสพติด คุณคงต้องหยุดคิด และหาทางแก้ปัญหา ด้วยการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะดีกว่า
-
คุณเริ่มมีอาการเซื่องซึม
อาการเซื่องซึมของคุณนั้น เริ่มจากน้อยไปหามาก จากที่เศร้า ๆ ซึม ๆ บางวัน กลายเป็นเกิดขึ้นทุกวัน เมื่อตื่นนอน ความรู้สึกท้อแท้ห่อเหี่ยว จนทำให้คุณไม่สามารถทำกิจกรรมใด ๆ ได้ อย่างที่คุณเคยทำ สิ่งเดียวที่คุณอยากทำ คือ นอนเฉย ๆ อยู่มุมมืด ๆ ของห้อง ถ้ามีความรู้สึกเช่นนี้แสดงว่า ความเครียดในตัวคุณนั้น มีมากจนเกินจะรับมือไหวแล้ว
-
คุณไม่ดูแลตัวเอง
ถ้าคุณเริ่มที่จะปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่สนใจว่า รูปร่างหน้าตาจะเป็นเช่นไร สภาพของคุณเปลี่ยนไปจนคนรอบข้างสังเกตเห็น ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะคุณรู้สึกเบื่อหน่าย และความเครียดรอบ ๆ ตัว ทำให้คุณไม่อยากจะสนใจตัวเอง ลองหันกลับมามองตัวคุณในเวลานี้ ถ้าคุณเริ่มเห็นคนที่ไม่ใช่คุณในกระจก เป็นคนแปลกหน้าที่ อ้วนฉุ หรือผมเผ้ารุงรัง ไม่ดูแลหน้าตา เนื้อตัวของตัวเองเลย คงถึงเวลาที่คุณจะต้องสำรวจภายในใจของตัวเองแล้วว่า ต้องการความช่วยเหลือ เพื่อให้พ้นจากสภาพที่เป็นอยู่หรือไม่