ไม่อยากป่วยต้องรู้ไว้ กับเคล็ดลับดูแลตัวเองฉบับเร่งรัด ถึงอากาศจะเปลี่ยนวันละ 3 ฤดูก็เอาอยู่!

ไม่อยากป่วยต้องรู้ไว้ กับเคล็ดลับดูแลตัวเองฉบับเร่งรัด ถึงอากาศจะเปลี่ยนวันละ 3 ฤดูก็เอาอยู่!

ไม่อยากป่วยต้องรู้ไว้ กับเคล็ดลับดูแลตัวเองฉบับเร่งรัด ถึงอากาศจะเปลี่ยนวันละ 3 ฤดูก็เอาอยู่!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย วันเดียวมีถึง 3 ฤดู เช้าลมหนาวพัดมาให้ได้รู้สึกเย็นสบาย พอเที่ยงแดดเปรี้ยงแบบที่เรียกได้ว่าร้อนจัด ตกเย็นฟ้าร้องฝนมาพายุกระหน่ำ ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมหันหน้าไปทางไหนก็เจอคนป่วยไข้เป็นหวัดคัดจมูกแบบนับไม่ถ้วน  นั่นก็เพราะร่างกายปรับตัวตามสภาพอากาศไม่ทัน ถ้าร่างกายไม่แข็งแรงพอบอกได้เลยว่ามีพังแบบยาวๆ แน่นอน ซึ่งผลพวงจากการเป็นหวัดในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ไม่ใช่แค่หายยากกว่าปกติ แต่ยังจะตามมาด้วยปัจจัยเสี่ยงในการเป็นโรคเรื้อรังอื่นๆ อีกมาก ทำให้ทำงานก็ไม่สนุก แผนหยุดยาวไปเที่ยวช่วงปลายปีก็ต้องล้มแบบไม่เป็นท่า และเผลอๆ อาจจะลุกลามไปติดสมาชิกคนอื่นในครอบครัวจนต้องนอนซมกันทั้งบ้าน

ภารกิจสร้างความฟิต ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย 

ช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยแบบนี้ถือเป็นช่วงที่ต้องดูแลตัวเองให้หนักเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม และหัด ซึ่งขึ้นแท่นติดอันดับหนึ่งในฤดูกาลนี้ที่คนเป็นเยอะที่สุด

1. ออกกำลังกายเป็นประจำและทำให้สม่ำเสมอ

นี่คือวิธีที่ง่ายที่สุด และดีที่สุดในการทำให้ร่างกายแข็งแรงพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงวันละ 3 ฤดู เนื่องจากการออกกำลังกายจะช่วยเสริมสร้างมวลกระดูก สร้างกล้ามเนื้อที่แข็งแรง กระตุ้นระบบหัวใจ และทำให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้น และควรเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง 30 นาทีขึ้นไป จะเลือกเป็นวิ่งเหยาะ ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เล่นโยคะ หรือตีแบด ก็ได้หมด

2. หมั่นทำร่างกายให้อบอุ่นตลอดเวลา

ในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยถือเป็นช่วงที่ร่างกายจะโดนเชื้อโรคและแบคทีเรียเข้ามาคุกคามได้ง่าย ดังนั้นพยายามทำให้ร่างกายอบอุ่นเข้าไว้เพื่อให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรงจนพร้อมจะจัดการกับเชื้อโรคต่างๆ

3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

ไม่ต้องแปลกใจที่จะรู้สึกง่วงหงาวหาวน้อยมากกว่าปกติ เพราะสภาพอากาศที่ไม่คงที่ย่อมส่งผลให้ร่างกายเกิดความอ่อนล้าได้ง่าย ดังนั้นพยายามฝึกตัวเองให้เข้านอนเร็วขึ้นเพื่อจะได้ครบวันละ 8 ชั่วโมงเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ถ้าทำได้จะเปรียบเสมือนการชาร์จแบตเตอรี่ให้ร่างกายพร้อมที่จะซ่อมแซมและฟื้นฟูทุกจุดได้อย่างเต็มกำลัง

4. เลือกกินอาหารที่อุดมด้วยวิตามินซี

ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ส้ม แอปเปิ้ล ฝรั่ง มะเฟือง และมะขามป้อม ถือเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซีจะช่วยกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกายให้พร้อมต่อสู้กับไข้หวัด

วิธีรับมือกับอาการคัดจมูก

ถ้าร่างกายพังเพราะรับมือไม่อยู่ หนึ่งในอาการน่ารำคาญที่จะเกิดขึ้นทันทีและเป็นแบบต่อเนื่องยาวนานก็คือ “อาการคัดจมูก” มีสาเหตุหลักมาจากการอักเสบในโพรงจมูกจนทำให้รู้สึกแน่น คัดจมูก และหายใจไม่สะดวก

อาการแบบนี้ไม่ควรปล่อยให้เรื้อรังเพราะยิ่งทิ้งไว้จะยิ่งเป็นเยอะ อึดอัด รำคาญ และแสบในโพรงจมูกมากขึ้นเรื่อยๆ ควรรักษาโดยใช้ยาบรรเทาการลดอาการคัดจมูกในรูปแบบของยาพ่นจะให้ดีควรพลิกฉลากเลือกที่มีตัวยาไซโลเมตาโซลีน ถ้าในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปีควรใช้ที่มีความเข้มข้น 0.05% ส่วนในผู้ใหญ่ให้ใช้ที่ระดับความเข้มข้น 0.1% เนื่องจากยาพ่นจมูกจะออกฤทธิ์ภายใน 2 นาที และคงอยู่ได้นานถึง 12 ชั่วโมง ซึ่งตอนนี้มีบางแบรนด์ที่สามารถใช้ได้ต่อเนื่องกันถึง 7 วัน

ง่ายๆ เท่านี้ต่อให้อากาศจะเปลี่ยนแปลงวันละกี่ฤดู หรือต่อให้จะเป็นหวัดคัดจมูกแค่ไหนก็เอาอยู่!

(Advertorial)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook