"โรคหนังศีรษะอักเสบ" หรือ "รังแค" สาเหตุ และวิธีรักษาที่ถูกต้อง
หลายๆ คนมักจะประสบปัญหาภาวะโรคหนังศีรษะอักเสบ (Seborrheic dermatitis) โดยทั่วไปมักจะนิยมเรียกว่า รังแค (Dandruff) ปัญหาเรื่องของโรคหนังศีรษะอักเสบหรือเราเรียกว่ารังแคนั้น นอกจากจะทำให้คนรอบข้างรู้สึกรังเกียจแล้ว ปัจจุบันมีผู้ป่วยทั้งหญิงและชายเข้ารับการรักษาเพิ่มขึ้นมากทีเดียว
โรคหนังศีรษะอักเสบ หรือรังแค คืออะไร?
อาการผิวหนังอักเสบนั้น จัดเป็นโรคเรื้อรังที่เป็นๆ หายๆ ไม่หายขาดเสียที เรียกได้ว่าผู้ป่วยที่เป็นแล้วก็กลับมาเป็นซ้ำอีก เชื่อว่าโรคนี้เกี่ยวข้องกับการเพิ่มจำนวนของเชื้อราจำพวก Malassezia globosa มาเปลี่ยนไขมันบนหนังศีรษะ ทำให้ก่อให้เกิดการอักเสบขึ้นตามมา
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคหนังศีรษะอักเสบถึงแม้จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ทำให้บุคลิกภาพของตัวเองเสียไป ทำให้ขาดความมั่นใจในเรื่องต่างๆ ทั้งในเรื่องการทำงานและการตัดสินใจในเรื่องอื่นๆ
อาการโรคหนังศีรษะอักเสบ หรือรังแค
อาการอักเสบของหนังศีรษะเกิดจากปัญหาหลายสาเหตุ ที่พบมากในผู้ที่มีเส้นผมและหนังศีรษะมัน ซึ่งอาการจะรุนแรงมากน้อยแตกต่างกันไป ซึ่งลักษณะอาการจะมีผื่นแดง เส้นผมหลุดร่วง คันที่หนังศีรษะ มีขุย ในบริเวณหนังศีรษะเมื่อมีการผลิตน้ำมันมากผิดปกติ บางรายมีอาการแสบหากโดนเหงื่อหรือโดนแสงแดดมากๆ มักจะเกิดอาการกำเริบเมื่อหนังศีรษะมันมากผิดปกติ
สาเหตุของโรคหนังศีรษะอักเสบ หรือรังแค
ปัจจัยภายนอกต่างๆ มากระตุ้นทำให้เกิดอาการกำเริบ เช่น
- สิ่งแวดล้อมที่เป็นปัจจัยทางลบ การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ เช่น ความชื้น ความร้อนจากแสงแดด ฝุ่นละออง ควัน
- อาหารบางชนิด
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนร่างกายได้
- พฤติกรรม เช่นเดียวกับการเป็นหวัด หากร่างกายอ่อนแอ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ภาวะการขาดอาหาร ก็ทำให้เกิดภาวะหนังศีรษะอักเสบได้
วิธีรักษาโรคหนังศีรษะอักเสบ หรือรังแค
การรักษาจะเริ่มต้นด้วยการใช้แชมพูกำจัดรังแค เช่น Ketoconazole Shampoo, Tar Shampoo, Selenium Sulfide Shampoo, Zinc Pyrithione Shampoo, Ciclopirox Shampoo เป็นต้น ถ้าอาการเป็นมากอาจต้องใช้การทายาต้านอักเสบในกลุ่มสเตียรอยด์ที่หนังศีรษะหรือ ยาทาหรือยารับประทานต้านเชื้อรา นอกจากนี้ยังควรพักผ่อนให้เพียงพอลดความเครียดลงด้วย
ภาวะหนังศีรษะอักเสบแม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไร แต่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้รากผมอ่อนแอ จากปัจจัยทั้งหมดจะไปกระตุ้นการอักเสบของโพรงเส้นผม ซึ่งการอักเสบที่ต่อเนื่องและเรื้อรัง อาจทำให้โพรงเส้นผมลีบเป็นพังผืด และสิ่งที่ตามมาก็คือ ปัญหารากผมอักเสบและเกิดการหลุดร่วงของเส้นผม หากไม่มีการดูแลรักษาความสะอาดและได้รับการเยียวยา ก็จะเกิดปัญหาศีรษะล้านได้ในอนาคต