5 สาเหตุอาการ “ไอเรื้อรัง” ไม่หายสักที
สุขภาพที่ไม่ดีร้อย 100% อาจรบกวนชีวิตประจำ ทำให้เราใช้ชีวิตอย่างยากลำบากขึ้น และอาจทำให้เสียบุคลิกภาพด้วย ปัญหาเล็กๆ อย่างการ “ไอ” แม้ว่าจะดูเหมือนไม่ได้ทำให้ชีวิตยากลำบากขึ้นมากนัก แต่หากไอเรื้อรังเรื่อยๆ ไม่ยอมหายสักที นอกจากจะสร้างความความระคายคอเหมือนไม่สบายอยู่ตลอดเวลาแล้ว ยังอาจสร้างความรำคาญใจ สร้างปัญหาในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น รวมไปถึงทำลายบุคลิกภาพไปอย่างน่าเสียดายอีกด้วย
>> ไอเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์ เสี่ยง "หลอดลมอักเสบ"
5 สาเหตุอาการ “ไอเรื้อรัง” ไม่หายสักที
- สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ทำให้เนื้อเยื่อที่สัมผัสกับควันบุหรี่ภายในร่างกายเกิดอาการระคายเคือง และอาจสร้างบาดแผล เกิดอาการอักเสบ จนอาจเป็นสาเหตุของโรคหลอดลมอักเสบได้
- มีเสมหะในลำคอตลอดเวลา มีอยู่หลายสาเหตุ ทั้งอาการของโรคภูมิแพ้ที่อาจเป็นโรคประจำตัวของคนๆ นั้น จมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ กรดไหลย้อน หลอดลมอักเสบเรื้อรัง ติดเชื้อเรื้อรังในคอ หรือแม้กระทั่งการใช้เสียงด้วยวิธีผิดๆ เช่น การหายใจผ่านทางปากมากเกินไป สำหรับคนที่ต้องพูดมากๆ
- ติดเชื้อเรื้อรังบริเวณคอ เช่น เป็นโรคในลำคอที่เกิดเชื้อรา เชื้อวัณโรค เชื้อซิฟิลิส เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัส
- ลำคอระคายเคืองจากสิ่งแปลกปลอมต่างๆ เช่น สารเคมี สารระเหย (สำหรับคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสารเหล่านี้) ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
- อาการข้างเคียงของโรคอันตรายอื่นๆ เช่น หัวใจวาย ไอกรน ปอดติดเชื้อ และโรคปอดอื่นๆ
วิธีลดอาการไอเรื้อรังด้วยตัวเอง
- หยุดสิ่งที่ทำให้หลอดลม รวมถึงเนื้อเยื่อภายในร่างกายอื่นๆ ระคายเคือง เช่น หยุดสูบบุหรี่ หยุดดื่มแอลกอฮอล์ ลดการทานอาหาร และเครื่องดื่มเย็นๆ อาหารทอดด้วยน้ำมัน เป็นต้น
- รักษาอาการของโรคต่างๆ ที่เกิดในลำคอให้หาย
- รักษาความชุ่มชื้นให้กับลำคอด้วยการไม่หายใจผ่านทางปากนานๆ ดื่มน้ำบ่อยๆ น้ำอุณหภูมิห้อง หรือน้ำอุ่นเล็กน้อย (น้ำเป็นยาละลายเสมหะที่ดีที่สุด)
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องปรับอากาศ หรือพัดลมที่ส่งอากาศเย็นๆ ปะทะศีรษะโดยตรง
- หากมีเสมหะมากจริงๆ สามารถพบแพทย์เพื่อปรึกษา และอาจได้รับยาละลายเสมหะ หรือยาลด/ระงับอาการไอมาทานเพื่อบรรเทาอาการได้