เด็กเล็กยิ่งอันตราย! 9 วิธีป้องกันลูกน้อยจากภับฝุ่นละออง PM 2.5

เด็กเล็กยิ่งอันตราย! 9 วิธีป้องกันลูกน้อยจากภับฝุ่นละออง PM 2.5

เด็กเล็กยิ่งอันตราย! 9 วิธีป้องกันลูกน้อยจากภับฝุ่นละออง PM 2.5
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วงเด็กเล็กได้รับผลกระทบต่อสุขภาพจากสภาพอากาศที่มี ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เร่งสร้างความรู้แก่พ่อแม่ ผู้ปกครองและครูพี่เลี้ยงพร้อมแนะแนวทางการดูแลเด็กกลุ่มเสี่ยงและเด็กที่มีโรคประจำตัว เพื่อป้องกันปัญหามลพิษทางอากาศ

แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า เด็กเล็กเป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวได้ เด็กที่สัมผัสกับมลพิษทางอากาศในระดับสูงอาจมีความเสี่ยงต่อ โรคเรื้อรังในระยะยาว เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ รวมทั้งยังส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางระบบประสาทและความสามารถทางปัญญาของเด็ก เนื่องจากปอดของเด็กยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้มีอัตราหายใจที่ถี่กว่า ดังนั้น พ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูพี่เลี้ยงควรดูแลเด็กทั้งกลุ่มปกติทั่วไปและเด็กที่มีโรคประจำตัวที่ต้องได้รับการดูแลและสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ กรมอนามัยได้กำหนดแนวทางการดูแลเด็กเล็กสำหรับพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูพี่เลี้ยง เพื่อป้องกันปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ดังนี้

  1. ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในเว็บไซต์กรมอนามัย www.anamai.moph.go.th แอพพลิเคชั่น Air4thai ของกรมควบคุมมลพิษ หรือ AirVisual (>> แนะนำ App (ฟรี) เช็กค่าฝุ่นละอองที่มากกว่า PM 2.5 ทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล)

  2. หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้าน ในช่วงที่ปริมาณ PM2.5 ตั้งแต่ระดับสีเขียว (26-37 ไมโครกรัม/ ลูกบาศก์เมตร) ขึ้นไป

  3. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ 6-8 แก้วต่อวัน

  4. เด็กที่มีโรคประจำตัวควรดูแลเด็กอย่างใกล้ชิดและสังเกตอาการ หากพบว่ามีอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออกให้รีบไปพบแพทย์
  5. หากค่า PM 2.5 อยู่ในระดับสีแดง (91 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) ขึ้นไป ห้ามออกนอกบ้าน

  6. ปลูกต้นไม้เพื่อดักฝุ่นละอองและมลพิษอากาศ

  7. งดกิจกรรมที่ก่อให้เกิด PM 2.5 เช่น การเผาใบไม้ เผาขยะ

  8. ไม่ติดเครื่องยนต์เป็นเวลานานในบริเวณบ้าน

  9. ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิดและเปิดพัดลมให้อากาศหมุนเวียน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook