4 วิธีป้องกันโรค “กระเพาะอาหารอักเสบ”

4 วิธีป้องกันโรค “กระเพาะอาหารอักเสบ”

4 วิธีป้องกันโรค “กระเพาะอาหารอักเสบ”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วัยทำงาน เป็นวัยที่เสี่ยงโรครุมเร้ามากมาย จากพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต งานที่เร่งรัดให้เวลาในการทานอาหาร การพักผ่อนลดน้อยลง แต่นอกจากสาเหตุเหล่านี้แล้ว ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้วัยทำงานเสี่ยงกับโรคที่พบได้มากที่สุดโรคหนึ่ง นั่นคือโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

 

สาเหตุของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า โรคแผล

ในกระเพาะอาหาร เป็นโรคที่พบได้บ่อย โดยสามารถพบได้ทุกวัย ปัจจุบันพบว่าสาเหตุหลักมี 2 สาเหตุ คือ

  1. การติดเชื้อแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโรไล (Helicobacter pylori)

  2. การรับประทานยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) รวมถึงยาต้านเกร็ดเลือด เช่น แอสไพริน

 

อาการของโรคกระเพาะอาหารอักเสบ

ผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหารอักเสบอาจจะมีอาการที่แตกต่างกันตั้งแต่ ปวดท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายดำ รวมถึงภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ซึ่งเกิดจากการเสียเลือดจากแผลในกระเพาะอาหาร

 

แผลในกระเพาะอาหาร อาการที่วัยทำงานมีความเสี่ยงสูง

เมื่อปล่อยให้กระเพาะอาหารอักเสบไปนานๆ จนทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร จะทำให้ผู้ป่วยมีความทรมานจากการปวดท้อง รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันได้ นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี จึงแนะแนวทางการรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบเอาไว้ ดังนี้

  1. ให้ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร ลดอาหารปวดแสบท้อง

  2. รักษาสาเหตุ ได้แก่การให้ยาปฏิชีวนะ หรือหยุดยาที่เป็นสาเหตุ โดยแพทย์ต้องทำการตรวจโดยละเอียด เพื่อให้ยาที่ช่วยรักษาอาการอย่างตรงจุด

 

เนื่องจากประเทศไทยมีอุบัติการณ์ของการติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ ไพโรไลค่อนข้างสูง รวมทั้งยาแก้ปวดสามารถซื้อหาได้ทั่วไป และมีผู้ป่วยที่ต้องรับประทานยาต้านเกร็ดเลือดมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นโรคแผลในกระเพาะอาหารจึงเป็นภาวะที่พบได้มากขึ้น หากผู้ป่วยท่านใดมีอาการดังกล่าวข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อแนะนำแนวทางการรักษาต่อไป

 

วิธีป้องกันโรค “กระเพาะอาหารอักเสบ”

  1. หมั่นล้างมือให้สะอาดหลังจากลับมาจากข้างนอกบ้าน และล้างมือก่อนทานอาหาร หยิบจับอาหารเข้าปาก

  2. เลือกอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ไม่มีแมลงวันตอม ภาชนะใส่อาหารสะอาด รวมถึงการเลือกเข้าร้านอาหารที่สะอาดด้วย

  3. หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ของทอด อาหารที่มีฤทธิ์เป็นกรดสูงหรือมีไขมันมาก

  4. งดสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook