5 เคล็ดลับรักษาอาหาร "เป็นหวัด" เรื้อรัง ไม่ยอมหาย

5 เคล็ดลับรักษาอาหาร "เป็นหวัด" เรื้อรัง ไม่ยอมหาย

5 เคล็ดลับรักษาอาหาร "เป็นหวัด" เรื้อรัง ไม่ยอมหาย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อาการป่วย ปวดหัว ตัวร้อน มีน้ำมูก หรือไอ หรือเรียกสั้นๆ ว่า ไข้หวัด นั้น มักเกิดในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว เดี๋ยวฝน ส่วนมากแล้วมักจะเป็นง่าย หายเร็ว แต่ก็มีบางครั้งที่ไข้หวัดนั้นไม่ยอมหายสักที แล้วเราจะทำอย่างไรดี วันนี้มีคำแนะนำดีๆ ในการดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรงและป้องกันโรคหวัดมาฝากกัน

  1. เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์  ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ ผัก ผลไม้ และถั่วต่างๆ ให้เหมาะสมกับร่างกาย หลีกเลี่ยงการกินอาหารทอด อาหารมัน อาหารรสหวานจัดและเค็มจัด ดื่มน้ำมากๆ และอาจดื่มเครื่องดื่มสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยไล่หวัดเสริมไปด้วย เช่น ชาร้อนๆ หรือน้ำขิง เป็นต้น

  2. ล้างมือบ่อยๆ ช่วยป้องกันโรค เพราะในแต่ละวันมือของเรานั้นสัมผัสกับสิ่งต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้คน พื้นผิว และสิ่งของต่างๆ ทำให้มีเชื้อโรคสะสมอยู่มากมาย และเชื้อโรคเหล่านี้ก็สามารถเข้าสู่ร่างกายของเราได้ ถ้าไม่อยากป่วยบ่อยๆ วิธีนี้ก็สามารถช่วยป้องกันได้อีกวิธีหนึ่งนั่นเอง

  3. พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนให้เพียงพอนั้นเป็นสิ่งที่ดีในการช่วยรักษาร่างกายให้แข็งแรง ห่างไกลโรค เพราะในบางครั้งการเป็นไข้หวัดก็เป็นอาการหนึ่งที่บ่งบอกว่าร่างกายของเรานั้นกำลังอ่อนล้า ไม่แข็งแรง ดังนั้นควรพักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อยก็วันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟู ซ่อมแซมส่วนต่างๆ ให้กลับมาแข็งแรงดังเดิม

  4. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้สดชื่นและร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้ระบบหมุนเวียนเลือดไหลเวียนได้ดี และช่วยป้องกันปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพในวงกว้างได้อีกด้วย

  5. หลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณแอลกอฮอล์ทุกชนิด เมื่อทานแอลกอฮอล์เข้าไปสู่ร่างกายจะมีผลโดยตรงกับระบบภูมิคุ้มกัน และยังส่งผลให้เกิดการอักเสบขึ้นในร่างกายได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย รู้แบบนี้แล้วงดได้ก็งดเพื่อสุขภาพที่ดีของเรา

 

การเป็นหวัดเรื้อรัง สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น จากอาการภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ มีสิ่งแปลกปลอมเข้าจมูก หรือเกิดการติดเชื้อซ้ำไปซ้ำมา ดังนั้นลองสังเกตอาการป่วยของตัวเองแล้ว ถ้ารู้สึกว่าอาการไม่ดี หรืออาการไม่ดีขึ้นหลังจากทานยาไปแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์จะดีที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook