"ขอบตาดำ" และ "ถุงใต้ตา" แก้ไขอย่างไร?

ปัญหาขอบตาดำและถุงใต้ตานั้นเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนพบเจอ และบางครั้งก็ไม่ทราบว่ามีสาเหตุมาจากอะไร ทั้งที่ตนมีการดูแลสุขภาพที่ดี แต่ทำไมถึงยังพบกับปัญหานี้อยู่ ลองมาทำความรู้จักอาการขอบตาดำและถุงใต้ตา ให้มากขึ้นกันดีกว่า

ขอบตาดำและถุงใต้ตามีสาเหตุที่แตกต่างกันดังนี้

• ปัญหาขอบตาดำ เกิดจากหลากหลายสาเหตุประกอบกัน ได้แก่ ปัญหาผิวหนังบริเวณนี้ดำคล้ำจากลักษณะตามพันธุกรรมของครอบครัว ร่วมกับอาการบวมช้ำเมื่อขยี้ตาบ่อย ๆ อดนอน ความเครียด รอยคล้ำหลังการอักเสบจากอาการแพ้หรือระคายเคือง หรืออาการร่วมของโรคภูมิแพ้ ประกอบกับเส้นเลือดที่มีจำนวนมากหรือขยายตัวในบริเวณนี้จะเห็นชัดเจนกว่าบริเวณอื่น ๆ เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีผิวหนังบาง นอกจากนี้ในผู้ป่วยที่เบ้าตาลึก หรือมีร่องใต้ตา จะยิ่งมีแสงเงาที่ชัดเจนมากขึ้นในบริเวณนี้ ทำให้เห็นพื้นที่ใต้ตามีสีเข้มกว่าปกติมากขึ้นไปอีก
  
  
• ปัญหาถุงใต้ตา เกิดจากผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตา มีความเสื่อมสภาพจนสูญเสียความยืดหยุ่นไป เมื่อปล่อยให้ปัญหาเรื้อรังเป็นเวลานาน จะสูญเสียความสามารถในการพยุงตัวของเนื้อเยื่อบริเวณรอบกระบอกตา ทำให้ไขมันชั้นลึกในบริเวณใต้ตาห้อยย้อยออกมาและเห็นเป็นถุงใต้ตาที่ชัดเจนมากขึ้นตามวัย นอกจากนี้ปัญหาถุงใต้ตาอาจเกิดจากการหดเกร็งที่มากเกินไปของกล้ามเนื้อบริเวณใต้ตา จะสังเกตว่าถุงใต้ตาชนิดนี้จะเห็นชัดเจนมากขึ้นเมื่อคนไข้ขยับกล้ามเนื้อตา เช่น หรี่ตามอง หรือ ยิ้มตาหยี เป็นต้น

 

การแก้ไขปัญหาขอบตาดำและถุงใต้ตา

• ปัญหาขอบตาดำ เกิดจากหลายสาเหตุ แนะนำให้ผู้ประสบปัญหานี้ตัดปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหามากขึ้น เช่น นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด พยายามรักษาความชุ่มชื้นของผิวบอบบางบริเวณใต้ตาด้วยครีมบำรุงรอบดวงตา รักษาอาการภูมิแพ้ให้ดี และหลีกเลี่ยงการทำให้เกิดการระคายเคืองบริเวณนี้ เช่น งดเว้นการขยี้ตาหรือสัมผัสผิวรอบดวงตาหลังจากสัมผัสสารเคมีต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้หากผิวหนังมีสีคล้ำขึ้นมาก แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาทากลุ่มปรับลดเม็ดสีผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น
  
  
• ปัญหาถุงใต้ตา การแก้ไขที่ได้ผลมักหนีไม่พ้นการผ่าตัดถุงใต้ตาเพื่อนำไขมันส่วนเกินออกและเย็บซ่อมแซมผิวหนังให้กลับมาตึงขึ้น หรือการรักษาเพื่อเพิ่มความกระชับของเนื้อเยื่อใต้ตา เช่น การรักษาด้วยคลื่นเสียงหรือคลื่นวิทยุ หากมีถุงใต้ตาร่วมกับการสูญเสียเนื้อเยื่อบริเวณนี้จำนวนมาก แพทย์อาจพิจารณา ใช้สารเติมเต็มช่วยฉีดเติมเพื่อลดแสงเงาลง

นอกจากจะรักษาปัญหารอบดวงตาไปแล้วก็ควรดูแลสุขภาพ และตัดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ออกเช่น พักผ่อนน้อย เนื่องจากเป็นบริเวณที่ผิวหนังอ่อนบางมาก ทำให้เกิดปัญหาได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น ๆ เพื่อการรักษาผิวรอบดวงตาให้สดชื่นอยู่เสมอ