เอะอะเลี้ยงบุฟเฟ่ต์ ระวังกรดไหลย้อนถามหา ทรมานไปอีกนาน
วันเกิด เลี้ยงส่ง ฉลองสอบเสร็จ โบนัสออก หรือแม้กระทั่งนัดเจอกับกลุ่มเพื่อน หนุ่มสาวสมัยนี้ชอบมุ่งตรงไปที่บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง หรืออาหารญี่ปุ่น เพราะนอกจากจะตัดปัญหาเรื่องใครกิน ไม่กินอะไรได้แล้ว ยังกินได้ตามใจฉัน มีอาหารให้เลือกมากมาย และทานได้จุใจคุ้มค่าคุ้มราคา แต่ทราบไหมคะว่าการทานบุฟเฟ่ต์ แล้วเอาความคุ้มเข้าว่าเนี่ย เป็นสาเหตุของโรคกรดไหลย้อนอันแสนทรมานนี่แหละ แถมช่วงนี้ Sanook! Health ก็เห็นคนเป็นกันเยอะด้วยสิ ขอบอกเลยว่าโรคนี้ไม่ใช่เล่นๆ แน่นอน
กรดไหลย้อน คืออะไร?
คืออาการที่ความดันในกระเพาะอาหารมากเกินไป จนทำให้หูรูดระหว่างกระเพาะอาหาร และหลอดอาหารหย่อนยาน จนปล่อยให้น้ำกรดที่ใช้ย่อยอาหารในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาตามหลอดอาหาร ทำลายเยื่อบุหลอดอาหาร
อาการของโรคกรดไหลย้อน
- แสบร้อนกลางหน้าอก จากการที่น้ำย่อยจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาที่หลอดอาหาร
- เรอบ่อย หรือเรอเหม็นเปรี้ยว อาจจะเรอแม้กระทั่งตอนเช้าที่ตื่นนอน ทั้งที่ยังไม่ได้ทานอะไร
- ปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ (กระเพาะอาหาร)
- ไอเรื้อรัง จากลำคออักเสบเรื้อรัง เนื่องจากกรดไหลผ่าน
- อาเจียน
- อาจมีเสียงแหบ จากการที่น้ำกรดไหลผ่านทำลายกล่องเสียง
- มีเสมหะ ของเหลว หรือสารคัดหลั่งในลำคอ หรือโพรงจมูกตลอดเวลา
- เจ็บคอเรื้อรัง
- สะอึกบ่อย
- มีอาการเหมือนโรคหืด หรือทำให้อาการโรคหืดที่เป็นอยู่แล้วแย่ลง จากอาการอักเสบเรื้อรังของหลอดลม
พฤติกรรมแบบไหน ที่เพิ่มความดันในกระเพาะอาหาร จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อน
1. ทานอาหารมากเกินไป เกินความอิ่มระดับปกติ
2. ทานอาหารรสจัดมากเกินไป เช่น เปรี้ยวจัด เผ็ดจัด
3. กินอาหารตอนกลางคืน ก่อนนอน กินแล้วนอนเลย
4. อายุสูงขึ้น หูรูดระหว่างกระเพาะอาหารและหลอดอาหารเสื่อมลง
5. กระเพาะอาหารอักเสบ
6. หญิงตั้งครรภ์
7. ผู้ป่วยที่มีอาการไอเรื้อรัง
8. ผลข้างเคียงจากยาที่ใช้บางตัว เช่น ยาคลายเครียด ยาลดกรด ยาบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
9. ดื่มสุรา และแอลกอฮอล์ประเภทต่างๆ
10. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะมีส่วนในการกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดมากยิ่งขึ้น
วิธีป้องกันจากโรคกรดไหลย้อน
1. จำกัดอาหารที่ทาน ไม่ทานจนอิ่มมากจนเกินไป
2. ลดอาหารรสจัด
3. ลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม
4. ควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกาย
5. งดการสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์
6. ไม่ทานอาหารในเวลากลางคืน หรือก่อนนอน ควรทานอาหารก่อนนอน 4-6 ชั่วโมง เพื่อให้อาหารได้ย่อยก่อน
7. ไม่ใส่เสื้อผ้าที่เอวรัด หรือรัดเข็มขัดจนเกินไป เพราะเป็นการเพิ่มความดันในกระเพาะอาหาร
8. เลือกทานอาหารที่ย่อยง่ายมากขึ้น เช่น ผัก ผลไม้
คราวหน้า ไม่ว่าจะฉลองด้วยโอกาสอะไร ลองเลี่ยงร้านบุฟเฟ่ต์ไปทานร้านที่อาหารอร่อยๆ บรรยากาศดีๆ กันบ้างก็ดีนะคะ เพราะเชื่อเถอะว่าไปบุฟเฟ่ต์เมื่อไร ก็กินจนพุงแตกด้วยกันทั้งนั้น ถ้าไม่อยากทรมานกับโรคที่เรื้อรังและรักษาได้ยากสุดๆ อย่างโรคกรดไหลย้อนนี่ล่ะก็ เปลี่ยนร้านเถอะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก haamor.com