แพทย์เตือน ยาลอกผิวขาวเสี่ยงเป็นมะเร็ง ผิวไหม้ แผลติดเชื้อ

แพทย์เตือน ยาลอกผิวขาวเสี่ยงเป็นมะเร็ง ผิวไหม้ แผลติดเชื้อ

แพทย์เตือน ยาลอกผิวขาวเสี่ยงเป็นมะเร็ง ผิวไหม้ แผลติดเชื้อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แพทย์ผิวหนังเตือนสาวๆ อย่าคลั่งกระแสผิวขาว ชี้ภัย "น้ำยาลอกผิว" ที่แท้เป็นน้ำกรดผสมยาชา ใช้แล้วหน้าไม่แสบ ผิวขาวขึ้น เพราะลอกผิวชั้นนอกออกไป ระยะยาวหน้าพัง เกิดแผลติดเชื้อในกระแสโลหิต หรือถึงขั้นตาบอดได้

ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ ประธานประชา สัมพันธ์ สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กระแสคลั่งผิวขาวยังคงความแรงอยู่อย่างต่อเนื่องในหมู่สาวไทย ชนิดที่เรียกได้ว่าพากันสรรหาและขวนขวายวิธีต่างๆ มาเนรมิตให้ได้ผิวขาวสวย "แบบขาวใสไร้สติ" ไม่น่าเชื่อว่ามีการเอาน้ำกรดมาขายเป็น "น้ำยาลอกผิว" ซึ่งกำลังเป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่หลายคนนิยม เพราะเชื่อว่าสามารถลอกผิวดำให้ขาวได้ภายในไม่กี่วันได้จริง ขอบอกว่า "ครีมมหัศจรรย์หน้าขาวใสเด้งทันทีชนิดนี้ไม่มีแน่นอนในสารบบวงการยาและวงการแพทย์" หากนำไปใช้แล้ว ผู้บริโภคขาวเร็ว หน้าเด้ง สิวหาย ต้องเริ่มคิดแล้วว่ามันเป็นครีมอะไร และมีความปลอดภัยหรือไม่ เช่น มีสารปรอทเป็นส่วนผสมหรือเปล่า ซึ่งจะมีอันตรายในระยะยาวได้

แพทย์โรคผิวหนังกล่าวต่อว่า ปัจจุบันน้ำยาลอกผิว เราจะพบโฆษณาง่ายๆ ได้ในอินเทอร์เน็ต ซึ่งบรรยายสรรพคุณสารพัดและมีราคาถูก ขายกันในรูปตลับ หรือเป็นลิตรและเป็นแกลลอน เพื่อนำมาอาบหรือทา พอก 2 ชั้น 3 ชั้น มี youtube แสดงให้เห็นว่าใช้อย่างไร พวกนี้พอทาไปประมาณ 1 อาทิตย์ ผิวก็จะลอกออกมาเป็นแผ่น สิ่งที่ลอกออกมาก็คือผิวชั้นนอก ในทางการแพทย์ก็มีวิธีการลอกผิวด้วยสารเคมีที่มีความปลอดภัย เช่น AHA รักษาผิวหน้าที่มีปัญหา เช่น เป็นหลุมสิว เป็นสิว เป็นฝ้า แต่ตัวที่ขายกันเป็นกรดแบบแรง ใช้ไปจะกัดทำให้ไหม้ผิว เวลาเราทาลงไปในบริเวณใบหน้า หรือแขน ขา ที่มันไม่แสบเนื่องจากน้ำยาลอกผิวเหล่านี้จะใส่ยาชาเข้าไปด้วย นอกเหนือจากผสมสารเคมีชนิดอื่นๆ เช่น สี ให้มีหลายแบบ เพื่อบอกว่าสำหรับผิวแพ้ง่าย หรือแบบแรง ปรุงแต่งเข้าไปอีกและส่วนผสมของสารเคมีที่เป็นกรดชนิดรุนแรงจะทำให้เกิดการกัดผิวจนไหม้ จนลอกผิวหนังชั้นนอกออกมา โดยผิวหนังชั้นนี้เป็นชั้นขี้ไคล ส่งผลให้ดูขาวขึ้น เมื่อใช้ติดต่อกัน ผิวหนังชั้นนอกของเราก็จะตายไปด้วย เมื่อเจอแสงแดดอีก ผิวก็กลับมาเป็นอย่างเดิม อีกทั้งไม่มีเม็ดสีป้องกันแสงแดด ป้องกันการไหม้ ก็อาจมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ หากรุนแรงกว่านี้จะส่งผลทำให้ผิวเกิดแผลไหม้ อาจติดเชื้อจนเกิดอันตรายตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น มีบางเคสใช้น้ำยาลอกหน้าแล้วเกิดแผลจนติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งเป็นอันตรายมาก หากเกิดที่ตาอาจทำให้ตาบอดได้

ผศ.พญ.สุวิรากรกล่าวอีกว่า สำหรับในเรื่องของการดูแลผิวนั้นจริงๆ แล้วง่ายมาก เพียงใช้สูตร 5 อ. คือ

1.อาหาร อาหารที่มีน้ำตาลเยอะก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้

2.อย่าอดนอน

3.อารมณ์อย่าให้เครียด

4.การขับถ่าย ควรจะต้องฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา ให้เป็นนิสัย

5.อากาศ หลีกเลี่ยงอยู่ในที่ที่มีควันพิษ มลพิษ เช่น บุหรี่

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไทยโพสต์, สำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook