6 “ผงชูรส” จากธรรมชาติ อร่อยลิ้น โดยไม่อันตรายต่อร่างกาย
หลายคนชอบสั่งอาหารตามร้านต่างๆ โดยบอกแม่ครัวว่า “ไม่ใส่ผงชูรส” เพราะการรับประทานอาหารที่ใส่ผงชูรสบ่อยๆ หรือมากเกินไป อาจทำให้เราคอแห้ง กระหายน้ำ และหากใครที่มีอาการแพ้ผงชูรส อาจทำให้ปากแห้ง ลิ้นชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง ใจสั่น แน่นหน้าอก รวมถึงอาการอื่นๆ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราได้
>> ผงชูรส ทำให้ผมร่วงจริงหรือ?
>> “ผงชูรส” ทานแบบไหน ปลอดภัย-เสี่ยงอันตราย
แต่หากจะให้ตัดขาดกับผงชูรสไปตลอดกาล ก็อาจทำให้ชีวิตของเราขาดรสชาติมากเกินไป อาหารที่กินอาจจะขาดรสอร่อยกลมกล่อมที่เคยคุ้นลิ้นของเรา ดังนั้น Sanook! Health จะมาแนะนำ “ผงชูรสธรรมชาติ” ที่เราสามารถใส่ลงไปในอาหาร ทำให้อาหารอร่อยกลมกล่อมยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพาผงชูรสเลย
6 “ผงชูรส” จากธรรมชาติ อร่อยลิ้น โดยไม่อันตรายต่อร่างกาย
-
สาหร่ายทะเล
ในแกงจืด หรือการต้มซุปต่างๆ หากได้ใส่สาหร่ายทะเลลงไปด้วย จะทำให้น้ำซุปหวานกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ในแกงจืดของไทยอาจเคยพบสาหร่ายแห้ง ในซุปสาหร่ายเกาหลีก็ใส่สาหร่ายคอมบุ หรือในซุปมิโสะของญี่ปุ่นก็จะมีสาหร่ายวากาเมะอยู่ด้วย นอกจากนี้สาหร่ายยังเหมาะกับคนที่อยากรับประทานอาหารอร่อยๆ แบบไม่อ้วน เหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะนอกจากจะให้พลังงานต่ำแล้ว ยังช่วยความหิว ลดน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้อีกด้วย
>> "สาหร่าย" มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ก็มีข้อด้อยเช่นกัน
-
เห็ดหอม
เห็ดหอม หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า เห็ดชิตาเกะ เป็นหนึ่งในเห็ดที่นิยมนำมาทำอาหารมากเป็นอันดับต้นๆ ทั้งต้มัด แกง ทอด ได้หมด มีกลิ่น และรสที่หวานเฉพาะตัว ให้รสชาติกลมกล่อมในทุกจาน ใช้เป็นส่วนสมหลักในเครื่องปรุงรสหลายชนิด เช่น ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง และช่วยลดไขมันในเลือดได้อีกด้วย
-
หัวไชเท้า
น้ำซุปหลายๆ ร้าน โดยเฉพาะน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว และน้ำซุปข้าวมันได่ มักเลือกใส่หัวไชเท้า เพราะช่วยเพิ่มความหวานกลมกล่อมให้กับน้ำซุปได้เป็นอย่างดี ตัวหัวไชเท้าเองหลังจากต้มจนสุกก็หวานเกิดห้ามใจ ยิ่งต้มนานยิ่งหวาน แถมหัวไชเท้ายังช่วยลดความดันโลหิต ปกป้องตับจากสารที่เป็นพิษต่อเซลล์ตับ ลดไขมันในเลือด และช่วยต้านมะเร็งได้อีกด้วย
-
กะหล่ำปลี
กะหล่ำปลีเป็นผักอีกชนิดที่ยิ่งทำให้สุกก็ยิ่งมีรสชาติหวาน ไม่ว่าจะเป็นผัด หรือต้ม สามารถใช้กะหล่ำปลีประกอบอาหารได้อย่างหลากหลายเมนู เช่น ต้มจืดกะหล่ำปลี กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา นอกจากนี้กะหล่ำปลียังช่วยลดน้ำตาลในเลือด บำรุงกระดูก และฟัน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง และยังช่วยกระตุ้นการสร้างเคราติน เพื่อบำรุงเส้นผม ผิวหนัง และเล็บอีกด้วย
-
ผักไชยา
ผักไชยาเป็นสมุนไพรพื้นบ้านของไทย ที่มีการแนะนำให้นำไปผสมในอาหารชนิดต่างๆ ให้รสชาติกลมกล่อม อร่อยขึ้น คล้ายการใส่ผงชูรส นายเหมราช ราชป้องขันธ์ แพทย์แผนไทย รพร.บ้านดุง จ. อุดนธานี ให้ข้อมูลว่า ผักไชยาสามารถหาได้ทั่วไปในแถบอีสาน วิธีรัปประทานต้องนำมาทำให้สุก 100% เช่นการต้มในน้ำเดือด เพราะผักไชยามีสารไซยาไนด์อาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ แต่หากนำมาต้มแล้วสารตัวนี้ก็จะสลายไป สามารถนำมาประกอบอาหารให้กับผู้ป่วยโรคไต เพื่อปรุงรสอาหารให้อร่อยกลมกล่มโดยไม่ต้องใส่เครื่องปรุงรสมากเท่าเดิมได้
-
กระดูกสัตว์
สำหรับใครที่อยากได้น้ำซุปรสชาติกลมกล่อมที่ใกล้เคียงกับการใส่งชูรส และเครื่องปรุงต่างๆ ให้ได้มากที่สุด คงต้องลงทุนลงแรงต้มกระดูดสัตว์เพื่อเอาน้ำสต็อกาทำอาหารเอง แม้ว่าจะดูยุ่ยาก และเสียเวลา แต่รับรองว่าได้รสชาติน้ำซุปหวานต้นกระดูกดั่งใจ กลมกล่อมจนแทบไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มให้มาก และยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย ไม่ใช่แค่ซุปแกงจืดเพียงอย่างเดียว สามารถนำไปใส่ในจานผัด ตุ๋น ต้ม นึ่ง และอื่นๆ ได้อีกหลายเมนู เวลาต้มกระดูกอย่าลืมช้อนเอาฟองออก เพื่อให้ได้น้ำซุปใสน่ารับประทานด้วย
อย่างไรก็ตาม ในเครื่องปรุงรสหลายอย่างที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มีผงชูรสเป็นส่วนผสมบ้างอยู่แล้ว เครื่องปรุงรสบางชนิด เช่น น้ำปลา ก็เป็นรสชาติที่มาจากการหมักบ่มจนได้ที่ เป็นรสชาติกลมกล่อมที่มาจากสัตว์เช่นกัน ดังนั้นเราสามารถกินอาหารที่มีการปรุงรสจากเครื่องปรุงรสตามปกติโดยได้รสชาติกลมกล่อมเหมือนใส่ผงชูรสได้ โดยไม่เสี่ยงต่ออันตรายที่เกิดขึ้น แต่เราควรค่อยๆ ลดการปรุงรสลงจนกว่าจะคุ้นลิ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไต และโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เป็นต้น
อนึ่ง สำหรับใครที่ไม่ได้แพ้ผงชูรส ยังสามารถใช้ผงชูรสประกอบอาหารได้โดยไม่ได้เป็นโทษต่อร่างกายมากนัก โดยใส่ในปริมาณเพียงเล็กน้อย และไม่จำเป็นต้องใส่ในทุกเมนูอาหารที่กิน เพราะผงชูรสยังมีประโยชน์ที่เราอาจไม่เคยทราบมาก่อน เช่น เพิ่มความอยากอาหารสำหรับผผู้ป่วยที่กินอาหารไม่ลง เป็นต้น