ปรุงอาหารด้วย "ผัก" อย่างไร ไม่ให้เสียคุณค่าทางสารอาหารมาก
การปรุงผักเป็นอาหาร ควรใช้ไฟแรงและปรุงอย่างรวดเร็ว จะทำให้ไม่สูญเสียคุณค่ามากนัก การเติมน้ำส้มสายชูลงไปเล็กน้อย ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มรสชาติของอาหาร ยังเป็นการรักษาวิตามินซีไว้อีกด้วย และที่สำคัญที่สุดก็คือ เครื่องครัวที่ใช้ผัดหรือต้มผักควรเป็นภาชนะจำพวกเหล็ก เช่น กระทะเหล็กจะช่วยให้สูญเสียวิตามินน้อยที่สุด
วิธีการต้ม
- พยายามใช้น้ำให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ในการต้มผัก
- รอให้น้ำเดือดจัดแล้วค่อยใส่ผักลงไปและไม่ควรต้มหรือแช่ไว้นาน
- ปิดฝาหม้อทุกครั้ง เพื่อให้น้ำเดือดและผักสุกเร็วขึ้น
- ผักสีเขียวให้ลวกหรือใส่ลงไปในน้ำเดือด รอจนน้ำเดือดอีกครั้งให้รีบตักขึ้นทันที
- ผักชนิดที่เป็นหัวเราควรต้มน้ำให้เดือด หรี่ไฟให้อ่อนลง แล้วนำผักที่เตรียมไว้ต้มไปทั้งหัวไม่ควรหั่นหรือฝานก่อน
- ถ้าผักที่เราต้องการต้มหรือลวกมีปริมาณมากให้แบ่งทำทีละน้อย ไม่ควรนำไปต้ม หรือลวกพร้อมกันทีละมากๆ เพราะถ้าปริมาณเยอะยิ่งต้องใช้เวลานานจะยิ่งทำให้สูญเสียคุณค่ามากขึ้นไปอีก
วิธีการผัด
- เตรียมส่วนผสมทุกอย่างไว้ให้พร้อม เพราะผักที่ลงผัดในกระทะยิ่งนานเท่าไหร่ยิ่งเสียคุณค่าและความกรอบอร่อยเท่านั้น
- ทำให้ผักสะเด็ดน้ำให้มากที่สุดเพราะถ้ามีน้ำหลงเหลืออยู่จากขั้นตอนการล้างมาก ยิ่งทำให้ระยะเวลาในการผัดเพิ่มขึ้น เสียทั้งคุณค่าและความอร่อย
- ก่อนลงมือผัดควรตั้งกระทะให้ร้อนเพื่อให้ความร้อนทั่วถึงเวลาผัด
- แยกผักหรือส่วนของผักที่สุกช้าลงผัดก่อน เช่น ก้านผัก ลำต้น ผัดก่อนส่วนที่เป็นใบ ปรุงรสโดยเร็ว สุกแล้วรีบตักขึ้นจากกระทะแล้วรีบรับประทานทันที
วิธีการตุ๋น
- หั่นผักขนาดพอดีไม่ใหญ่จนเกินไป เพราะจะทำให้สุกช้า
- ใส่ผักเป็นลำดับสุดท้าย เพราะผักเปื่อยง่าย
- ปิดฝาให้สนิท
การนึ่ง
- ต้มน้ำให้เดือดก่อนค่อยใส่ผักที่ต้องการนึ่งลงไปเพื่อไม่ให้ผักสัมผัสกับความร้อนนานเกินไป
- ปิดฝาภาชนะให้สนิท ป้องกันไม่ให้ไอน้ำออกมา ทำให้สูญเสียความร้อนภายใน ทำให้อาหารสุกช้าลง