แอร์ยุคนี้แค่เย็นอย่างเดียวไม่พอ ต้องกรองฝุ่น PM2.5 ได้ด้วย!
แน่นอนว่าเครื่องปรับอากาศเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับคนไทย ยิ่งอากาศในบ้านเราร้อนขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน การจะเลือกแอร์สักตัวมาติดในบ้านจึงต้องพิถีพิถันมากหน่อย เพราะไม่ใช่แค่ปล่อยลมเย็นฉ่ำอย่างเดียวแล้วจะดี แต่ต้องพิจารณาถึงคุณภาพของลมเย็นที่ออกมาจากแอร์ และประสิทธิภาพในการกรองอากาศและฝุ่นละอองด้วยว่าปลอดภัยต่อสุขภาพร่างกายมากน้อยแค่ไหน
ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าจะเลือกแอร์ยี่ห้อไหนดี ลองมาทำความรู้จักกับ Samsung Wind-Free™ Plus เพราะนี่คือแอร์ที่ออกแบบมาเพื่อคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ
สำหรับการใช้งานเครื่องปรับอากาศในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าเลือกแอร์ที่ปล่อยลมเย็นฉ่ำออกมาอย่างเดียว คงไม่พอ เนื่องจากลมที่เย็นเร็วแต่ไม่สม่ำเสมอ มีโอกาสทำให้เราป่วยได้ง่าย หรือแม้แต่แอร์ที่ออกแบบมาให้มีลมเย็นปรับทิศทางอัตโนมัติตามติดตัวเราไปทุกที่ ถึงจะเย็นสบายก็จริง แต่ก็ยิ่งทำให้ผิวแห้งเหี่ยวขาดความชุ่มชื้น ดังนั้น แอร์ที่ดีจะต้องทำหน้าที่ปรับอากาศในห้องให้เย็นสบายกำลังดี แบบไม่มีลมปะทะตัวโดยตรง
เหมือนอย่างการทำงานของแอร์ซัมซุง ที่มีระบบทำความเย็น Wind- Free Cooling ช่วยรักษาระดับความเย็นที่สบายตัว กระจายอากาศเย็นอย่างอ่อนโยนผ่านรูขนาดเล็ก 21,000 รู จึงไม่ทำให้รู้สึกถึงลมเย็นที่ปะทะตัว ไม่ทำให้คนในบ้านหนาวหรือร้อนเกินไป
และที่เด็ดไปกว่านั้นคือ โหมด Good Sleep พร้อมด้วย Wind-Free™ Cooling ที่จะช่วยให้การนอนหลับของสมาชิกทุกคนในบ้านมีคุณภาพมากขึ้น เพราะนอกจากจะไม่มีกระแสลมเย็นมาปะทะตัวโดยตรงแล้ว การควบคุมอุณหภูมิด้วยระบบทำความเย็น Wind-Free™ ยังช่วยให้หลับสนิทต่อเนื่อง ไม่ต้องตื่นมาลดหรือเพิ่มอุณหภูมิของแอร์กลางดึก เห็นไหมว่าแอร์ยุคนี้ไม่ได้เย็นอย่างเดียว แต่ยังดีต่อสุขภาพจริงๆ
นอกจากไม่มีลมปะทะแล้ว ฝุ่นก็ห้ามปะทะตัวเราด้วยเช่นกัน รู้หรือไม่ว่าแม้คุณจะใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านหรือในอาคาร แต่เจ้าฝุ่นจิ๋ว PM2.5 ก็ยังสามารถลอดเข้าไปในบ้านได้ แต่บ้านไหนที่ใช้เครื่องปรับอากาศ Samsung Wind-Free™ Plus ก็สบายใจหายห่วง ด้วยนวัตกรรมตรวจจับฝุ่นถึง 3 ขั้นตอน เริ่มจาก Ultra Wide PM 2.5 Filter เสริมประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น PM 2.5 ได้เป็นอย่างดี สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึง 99% ใน 100 นาที แตกต่างด้วยการกรองอากาศแบบใช้ประจุไฟฟ้า สามารถถอดล้างได้ตลอดการใช้งาน รู้สึกได้เลยนะว่าหายใจโล่ง สบายจมูกจริงๆ
นอกจากนี้ แอร์ซัมซุงยังมีระบบฟอกอากาศที่ชื่อว่า Virus Doctor ทำงานด้วยการปล่อย lonizer ช่วยยับยั้งไวรัสและแบคทีเรีย 99.99%* ลมที่ปล่อยออกมาจึงเป็นอากาศบริสุทธิ์ที่ดีต่อสุขภาพ เตรียมสูดหายใจลึกๆ กันได้อย่างสบายใจ
มากไปกว่านั้น ยังมีแผ่นกรอง 3 Care Filter Plus แผ่นกรองความละเอียดสูงเคลือบสาร Zeomic ช่วยยับยั้งเชื้อรา แบคทีเรีย และสารก่อภูมิแพ้ และเมื่อใช้งานไปสักพักแล้ว อยากถอดแผ่นกรองออกมาล้างทำความสะอาด ก็สามารถถอดและใส่กลับเข้าไปใหม่ได้ง่าย
แล้วที่เห็นว่าตัวเครื่องเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมก็ไม่ได้ดีไซน์มาเพื่อเอาเก๋อย่างเดียว แต่รูปทรงสามเหลี่ยมแบบนี้ยังช่วยกระจายลมเย็นได้ไกลกว่าและกว้างขวางมากขึ้น เมื่อมารวมเข้ากับเทคโนโลยีดิจิตอลอินเวอร์เตอร์แบบ 8 ขั้ว จึงช่วยประหยัดไฟ และทำให้อากาศเย็นเร็วขึ้นถึง 43% อีกด้วย
และที่แจ๋วไปกว่านั้นคือ Samsung Wind-Free™ Plus ยังช่วยประหยัดพลังงานได้สูงสุดถึง 68% ยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับพลังงานที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศรุ่นเก่า Samsung Wind-Free™ Plus ใช้พลังงานไปเพียง 32% เท่านั้น ทำไมแอร์ซัมซุงถึงประหยัดพลังงานน่ะเหรอ ก็เพราะมีคุณสมบัติในการรักษาระดับอุณหภูมิที่ต้องการได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้ไม่ต้องปิดและเปิดความถี่บ่อยๆ แอร์ Samsung Wind-Free™ Plus จึงทั้งเงียบกว่า ทนทานกว่า และกินไฟน้อยกว่านั่นเอง
พูดถึงความสะดวก ยิ่งถูกใจคนยุคนี้แบบสุดๆ เพราะ Samsung Wind-Free™ Plus สามารถสั่งการด้วย Wi-Fi ผ่าน Smart Thing Application และระบบ voice control ผ่าน Bixby ทำให้คุณสามารถกดเปิดแอร์ล่วงหน้าตั้งแต่ยังไม่ถึงบ้าน เรียกได้ว่า พอเปิดประตูเข้าบ้านปุ๊บ ก็เย็นปั๊บ รับอากาศบริสุทธิ์ดีต่อสุขภาพได้ทันที
อ่านมาถึงตรงนี้คุณคงตัดสินใจได้ไม่ยากแล้วล่ะว่า จะเลือกซื้อแอร์ทั้งที แค่เย็นและประหยัดไฟคงไม่พอ แต่แอร์เครื่องนั้นต้องตอบโจทย์ทั้งด้านการทำความเย็น ดีไซน์ คุณภาพ และนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ เหมือนอย่าง Samsung Wind-Free™ Plus เพราะแอร์ยุคนี้ มากกว่าอยู่แล้วคูล ต้องอยู่แล้วคลีน!
#ขออากาศดีให้WeFin #SamsungWindFreePlus
(Advertorial)
