ฝุ่น PM 2.5 สาเหตุอาการ “ตาแห้ง” โดยไม่รู้ตัว?

ผ่านมาระยะนึงแล้วกับสภาวะฝุ่นขนาดเล็กในอากาศที่มากกว่าปกติ ที่มีค่า PM 2.5 สูงเกินมาตรฐานจากที่กำหนด ปัจจุบันหลายๆ พื้นที่ก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ เดี๋ยวก็ลด เดี๋ยวก็เพิ่ม มลภาวะที่เป็นพิษเช่นนี้ ทำให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา โดยเฉพาะโรคทางตา โดยเฉพาะ “ตาแห้ง” มักเป็นอีกหนึ่งอาการที่พบบ่อยมากในขณะนี้ พญ.สุกานดา สวัสดิบุตร จักษุแพทย์จาก TRSC ศูนย์เลสิคนานาชาติ จึงขอแนะนำการดูแลดวงตา เพื่อห่างไกลจากอาการตาแห้ง

สาเหตุของอาการตาแห้ง

อาการ “ตาแห้ง” ก็เป็นอีกหนึ่งอาการที่มักพบบ่อยในผู้ที่ต้องเผชิญกับมลภาวะเป็นพิษ ซึ่งสาเหตุของอาการตาแห้ง เกิดจากต่อมน้ำมันที่เปลือกตาทำงานผิดปกติ  เนื่องจากต่อมนี้จะทำหน้าที่สร้างน้ำมัน ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของน้ำตา เพราะช่วยลดการระเหยของน้ำตา ช่วยในการหล่อลื่นดวงตา หากต่อมน้ำมันที่เปลือกตาทำงานผิดปกติแล้ว อาจเกิดการตาแห้ง ระคายเคือง แสบตาได้

อันตรายจากอาการตาแห้ง

นอกจากอาการระคายเคืองตา และแสบตาแล้ว ยังอาจทำให้รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมเข้าตา ตาสู้แสงไม่ได้ น้ำตาระเหยเร็ว เนื่องจากไม่มีชั้นน้ำมันมาเคลือบฟิล์มน้ำตาไว้ และหากยังไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกวิธีอาจเกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาได้ อาทิ เป็นแผลที่กระจกตา การอักเสบของบริเวณผิวดวงตา เป็นต้น

>> “ตาแห้ง” อย่ามองข้าม สัญญาณอันตรายถึงขั้น "ตาบอด"

ปัจจัยเสี่ยงของอาการตาแห้ง

สาเหตุการเกิดโรคต่อมน้ำมันอุดตันที่เปลือกตา ที่ทำให้เกิดอาการตาแห้ง ปัจจัยเสี่ยงได้แก่

• อายุ ยิ่งอายุมาก ยิ่งเสี่ยงตาแห้งได้ง่ายกว่า
  
  
• เพศ เพศหญิงมีความเสี่ยงตาแห้งมากกว่าเพศชาย โดยเฉพาะเพศหญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป
  
  
• ฮอร์โมน ฮอร์โมนเพศหญิงแปรปรวน อาจส่งผลถึงน้ำตาที่ลดลงด้วย
  
  
• ยาหยอดตา ยานอนหลับ ยาแก้แพ้ ยาลดความดันโลหิตบางชนิด
  
  
• ใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานานมากกว่า 6-8 ชั่วโมง
  
  
• เชื้อแบคทีเรีย จากการทำความสะอาดเปลือกตาไม่สะอาดเพียงพอ โดยเฉพาะคราบยาหยอดตา เครื่องสำอาง และอื่นๆ
  
  
• ใช้สายตาเป็นเวลานาน เช่น จ้องหน้าจอโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ หรืออ่านหนังสือ

>> "ตาแห้ง" อันตรายจากการใช้คอมพิวเตอร์

>> ตาแห้ง-แสบตา-เคืองตา อาการเริ่มต้นของอาการ "ตาติดจอ"

>> "ตาแห้ง" ภาวะอันตรายของชาวดิจิตอล จากการใช้มือถือ-คอมพิวเตอร์นานๆ

การรักษา หรือการป้องกันอาการตาแห้ง จากโรคต่อมน้ำมันอุดตันที่เปลือกตา

1. ทำความสะอาดเปลือกตา

• โดยใช้แชมพูเด็กผสมน้ำ แล้วใช้ไม้พันสำลี ชุบแล้วเช็ดขอบเปลือกตาเบาๆ ถูไปมาประมาณ 30 วินาที  แต่วิธีนี้อาจเกิดการแสบตา ระคายเคืองได้ เนื่องจากแชมพูเด็กไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับดวงตาโดยตรง
  
  
• ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดเปลือกตาโดยตรง ซึ่งมีความปลอดภัยต่อผิวบริเวณรอบดวงตาได้ดีกว่า

2. การประคบอุ่นเปลือกตา

• ประคบอุ่นทั่วไป  อุปกรณ์ที่จะใช้ อาทิ  ไข่ต้มอุ่นๆ  ผ้าชุบน้ำอุ่น  หรือเจลประคบร้อน ต้องระวังไม่ให้อุปกรณ์ร้อนจนเกินไป ซึ่งอุณหภูมิที่เหมาะสม ประมาณ 40 องศาเซลเซียส  จากนั้นวางอุปกรณ์บนเปลือกตาทั้ง 2 ข้าง อย่างน้อย 5- 10 นาที หากอุปกรณ์เย็นแล้ว ให้นำมาอุ่นซ้ำ แล้วประคบต่อจนครบเวลาที่กำหนด
  
  
• แว่นประคบอุ่น  เป็นเครื่องมือแพทย์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการละลายไขมันที่อุดตันบริเวณเปลือกตา โดยแว่นสามารถควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้สายตาในระหว่างการประคบอุ่นได้

3. นวดเปลือกตา

หลังจากประคบอุ่นที่เปลือกตา  ให้ใช้นิ้วนวดที่เปลือกตา  การนวดเปลือกตาบนให้กดจากบนลงล่าง ส่วนเปลือกตาล่างให้นวดโดยกดจากล่างขึ้นบน  การนวดลักษณะนี้จะทำให้ไขมันที่อุดตันอยู่ที่ต่อมน้ำมันบริเวณขอบเปลือกตาระบายออกมา

4. การใช้น้ำตาเทียม

เนื่องจากปัจจุบัน มีประเภทของน้ำตาเทียมที่หลากหลาย ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมต่ออาการของแต่ละบุคคล

การดูแลดวงตา เพื่อห่างไกลจากอาการตาแห้งนั้น ท่านสามารถดูแลด้วยตัวเองได้ไม่ยาก แต่หากมีอาการผิดปกติเกิดขึ้น ทางที่ดีควรรีบมาพบจักษุแพทย์เพื่อรักษาตามอาการจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อรักษาได้ทันท่วงที

>> "ตาแห้ง" บรรเทาอย่างไรให้ได้ผล?