“วิตามินดี” ช่วยป้องกัน “มะเร็ง” ได้
มีอาหารหลายชนิดที่มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็ง โดยเฉพาะอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงๆ (>> ม. ฮาร์วาร์ด แนะนำอาหารช่วยลดความเสี่ยง “มะเร็ง” ได้จริง) แต่ที่หลายคนอาจไม่เคยทราบ คือวิตามินดีในปริมาณที่เหมาะสมก็ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้เช่นกัน
วิตามินดี = ลดเสี่ยงมะเร็ง?
สาเหตุของมะเร็งมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอายุ น้ำหนัก กิจกรรมที่ทำในแต่ละวัน เช่น สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ อาหารการกิน รวมถึงพันธุกรรมที่สามารถถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้ แต่นักวิจัยพบว่าคนที่มีวิตามินดีในร่างกายมาก มีความเกี่ยวกับการลดลงของความเสี่ยงมะเร็งทั้งในผู้ชาย และผู้หญิงถึง 20% เมื่อเทียบกับคนที่มีวิตามินดีน้อยกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือการลดลงของความเสี่ยงโรคมะเร็งตับ (และโดยเฉพาะในผู้ชายด้วย)
วิตามินดีปกป้องร่างกายจากมะเร็งได้หรือไม่นั้น ยังไม่มีข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนพอ บางส่วนเชื่อว่าที่งานวิจัยพบว่าคนที่มีวิตามินดีในร่างกายสูงจะมีความเสี่ยงโรคมะเร็งน้อย อาจเป็นเพราะว่าวิตามินดีมีคุณสมบัตลดอาการปวดบวมอักเสบของเซลล์ในร่างกายได้ ถึงทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดเซลล์ที่อักเสบผิดปกติที่อาจพัฒนากลายเป็นเนื้อร้าย หรือก้อนมะเร็งในอนาคตได้ หรืออาจจะเพราะผู้ที่ได้รับวิตามินดีจากแสงแดดมากกว่า คือผู้ที่มีกิจกรรมทำในแต่ละวันมากกว่า ออกกำลังกายมากกว่า ถึงทำให้สุขภาพแข็งแรงมากกว่า
วิตามินดีแบบอาหารเสริม อาจไม่ใช่ทางออก
อย่างไรนักวิจัยไม่พบว่าวิตามินดีที่สูงขึ้นจะช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งปอด และมะเร็งต่อมลูกหมากได้
และถึงแม้จะยังมีงานวิจัยที่บ่งชี้ว่า คนที่มีปริมาณวิตามินดีในเลือดน้อย มีความเสี่ยงโรคมะเร็งมากกว่าคนอื่นที่มีวิตามินดีมากกว่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการเพิ่มปริมาณวิตามินในเลือดด้วยการรับประทานอาหารเสริมที่มีวิตามินดีเป็นส่วนประกอบมากขึ้น ก็ไม่ได้ช่วยเพิ่มการป้องกันโรคมะเร็งได้เช่นกัน เพราะการที่เรามีวิตามินดีในเลือดสูงเกินไป (มากกว่า 20 นาโนกรัมต่อมิลลิลิตร) อาจส่งผลต่อร่างกายโดยรวม โดยเฉพาะกระดูก และอาจเสี่ยงภาวะวิตามินดีเป็นพิษได้ ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแคลเซียมในเลือดสูง ไตวาย หัวใจเต้นผิดปกติได้ แต่โดยส่วนใหญ่เราจะไม่เกิดภาวะเหล่านี้หากเป็นการรับวิตามินดีจากอาหารและแสงแดด
วิธีเพิ่มวิตามินดีให้กับร่างกายในปริมาณที่พอเหมาะ
วิตามินดีสามารถรับเข้าร่างกายเพิ่มได้ง่ายๆ จากการออกไปเดิน หรือออกกำลังกายข้างนอกให้ร่างกายได้สัมผัสกับแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า แม้ในเมืองไทยแดดจะค่อนข้างแรง แต่หากสามารถออกไปรับแดดในช่วง 6.00-7.00 น. หรืออาจจะเป็นถึง 10.00 น. ในช่วงฤดูหนาวที่แดดไม่แรงมากได้ ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินจากแสงแดดเพิ่มมากขึ้นอย่างง่ายๆ
นอกจากนี้ยังมีอาหารที่ช่วยเพิ่มปริมาณวิตามินดีให้กับร่างกายอยู่จำนวนหนึ่ง นั่นคือ
- ปลาที่มีไขมันตามธรรมชาติ เช่น แซลมอน ทูน่า ปลาทู ฯลฯ
- เนื้อวัว
- ชีส
- ไข่แดง
- เห็ด
และยังมีอาหารที่ช่วย “เพิ่ม” เสริมให้มีวิตามินดีในร่างกายมากขึ้น ได้แก่
- นม
- ซีเรียล
- น้ำส้ม
- โยเกิร์ต
- เนยเทียม (มาการีน)
- นมถั่วเหลือง