"มะเร็งปากมดลูก" ภัยเงียบสุดอันตราย กว่าจะรู้อาจสายเกินไป

"มะเร็งปากมดลูก" ภัยเงียบสุดอันตราย กว่าจะรู้อาจสายเกินไป

"มะเร็งปากมดลูก" ภัยเงียบสุดอันตราย กว่าจะรู้อาจสายเกินไป
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มะเร็งในผู้หญิงนับว่ามีความน่าห่วงเพิ่มมากขึ้น  ซึ่งที่พบบ่อยในผู้หญิงคือ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับ  มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่  โดยมะเร็งที่ถือได้ว่าเป็นมะเร็งที่น่าห่วงมากที่สุดในผู้หญิงคือ มะเร็งปากมดลูก


พบผู้ป้วยมะเร็งปากมดลูกในช่วงอายุน้อยมากขึ้น

ผศ.พิเศษ พญ.อรัญญา ยันตพันธ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งนรีเวช รพ.ราชวิถี กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์มะเร็งในหญิงไทยมีเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่โชคดีที่มีวิธีการสืบค้นได้มากขึ้น มีการตรวจพบในระยะต้นๆ และพบคนไข้ในกลุ่มที่อายุน้อยมากขึ้น มะเร็งในผู้หญิงมีมะเร็งปากมดลูก เป็นโรคมะเร็งที่พบเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งเต้านม พบช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป แต่อาจพบได้ในคนที่อายุน้อย เช่น 20 ปี


กลุ่มเสี่ยง มะเร็งปากมดลูก

ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีประวัติการมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย มีคู่นอนหรือมีสามีหลายคน หรือมีสามีที่มีความสำส่อนทางเพศ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้


สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก

สาเหตุของมะเร็งปากมดลูก มากกว่าร้อยละ 90 เกิดจากไวรัสเอชพีวี โดยเชื้อไวรัสชนิดนี้ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ทำให้มีรอยถลอกของผิวหรือเยื่อบุในอวัยวะสืบพันธุ์ ทำให้เชื้อไวรัสสามารถเข้าไปอยู่ที่ปากมดลูก ทำให้ปากมดลูกเกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อหรือเซลล์ปากมดลูก จนกลายเป็นเซลล์หรือเนื้อเยื่ออักเสบเรื้อรัง (ระยะก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก) และเป็นมะเร็งในที่สุด 


วิธีป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก

การป้องกันตัวเองสำหรับผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว

  • ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกภายใน 3 ปี

  • ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เว้นแต่ผู้ชายที่จะให้เป็นพ่อของลูก

หากยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์

  • อาจเริ่มตรวจตั้งแต่อายุ 30 ปี ขึ้นไปโดยการตรวจแปปสเมียร์ ร่วมกับการตรวจหาเชื้อเอชพีวี  

  • ผู้หญิงที่ยังไม่มีเพศสัมพันธ์อายุตั้งแต่ 9-26 ปี ควรฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน สำหรับต่อต้านเชื้อเอชพีวีก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook