แมงมุมมีพิษกัด ควรทำอย่างไร?
หากถูกแมงมุมมีพิษกัด ให้รีบทำความสะอาดและประคบเย็นบริเวณที่ถูกกัด ห้ามประคบร้อนโดยเด็ดขาดเพราะพิษจะกระจาย ถ้ามีอาการรุนแรงให้รีบไปพบแพทย์พร้อมนำแมงมุมไปด้วย
ลักษณะที่ควรสังเกต ของแมงมุมมีพิษ
แมงมุมพิษที่มีอันตรายและควรระมัดระวัง จัดแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่
- แมงมุมแม่ม่ายดำ (black widow spider)
- แมงมุมสันโดษสีน้ำตาล (brown recluse spider)
โดยลักษณะที่เด่นชัดของแมงมุมมีพิษให้สังเกตตรงบริเวณท้องจะป่องขึ้นมาเป็นพิเศษ ซึ่งแตกต่างจากแมงมุมที่เจอตามบ้านทั่วไป พิษของแมงมุมสามารถทำให้เกิดอาการทางระบบอื่นๆ เช่น คลื่นไส้อาเจียน ไข้ หรือ ปวดศีรษะ ในบางรายอาจรุนแรงมาก เช่น ไตวาย หรือ ภาวะเลือดแข็งตัวในหลอดเลือด โดยอาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นภายใน 1-2 วันหลังโดนกัด
อาการแบบไหน คือแมงมุมมีพิษกัด
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ให้ข้อมูลว่า หากถูกแมงมุมมีพิษกัด พิษอาจทำให้มีอาการดังต่อไปนี้
- แผลบวมไหม้เป็นสีดำ
- เริ่มปวดแผลเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้น
- อาจมีอาการปวดตามข้อกระดูกและทั่วร่างกาย
- อาจมีไข้ต่อเนื่อง
- ปวดต่อเนื่องร่วมสัปดาห์
วิธีปฐมพยาบาล เมื่อถูกแมงมุมมีพิษกัด
หากถูกแมงมุมมีพิษกัด ควรทำตามขั้นตอนดังนี้
- รีบทำความสะอาด และประคบเย็นบริเวณที่ถูกกัด
- หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
- ไม่ควรประคบร้อนที่บริเวณที่ถูกกัดโดยเด็ดขาด เนื่องจากจะทำให้พิษแมงมุมกระจาย
- หากมีอาการรุนแรง เช่น คลื่นไส้อาเจียน มีไข้ หรือปวดศีรษะ ให้รีบไปโรงพยาบาล โดยนำแมงมุมไปด้วย
ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีเซรุ่มหรือยาต้านพิษ เนื่องจากพิษแมงมุมในประเทศไทยไม่ได้รุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้
วิธีป้องกันแมงมุมพิษ
แพทย์หญิงมิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนทำให้สัตว์จำพวกแมลงมีพิษต่างๆ มักจะหลบซ่อนเข้ามาตามบ้านเรือน จึงควรทำความสะอาดและตรวจสอบเสื้อผ้าก่อนสวมใส่ ตรวจสอบที่นอนก่อนนอนเสมอ