ปวดหัวแบบนี้ เป็น “ไมเกรน” หรือแค่ “เครียด”?
อาการปวดหัว หรือปวดศีรษะ เป็นอาการที่เราเป็นกันได้บ่อยๆ อาจไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอันตรายอะไร เพราะบางครั้งก็หายได้เอง หรือบางครั้งกินยาแก้ปวดนิดหน่อยก็หาย แต่หากบางครั้งกินยาแล้วยังไม่หาย และไม่แน่ใจว่าอาการปวดหัวของเราเองเป็นอันตรายมากน้อยแค่ไหน เป็นสัญญาณอันตรายของโรคไมเกรนหรือเปล่า Sanook! Health มีวิธีเช็กง่ายๆ มาฝากกัน
ปวดหัวเพราะเครียด
- ปวดทั่วทั้งศีรษะ
- ปวดบีบๆ เหมือนถูกบีบศีรษะเบาๆ
- ไม่มีอาการอื่นๆ เล่น คลื่นไส้
- ปวด แต่พอนอนหลับได้
- กินพาราเซตามอลแล้วหายปวด
ปวดหัวเพราะไมเกรน
- ปวดหัวข้างเดียว โดยอาจปวดข้างเดียวบริเวณขมับ หรือท้ายทอย
- รู้สึกปวดมาก แบบที่ให้คะแนนความปวดกับตัวเองในระดับปานกลาง ไปจนถึงปวดมากจนทำกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ไม่ค่อยได้ เช่น เริ่มเรียนไม่รู้เรื่อง ทำงานไม่ได้ แม้กระทั่งอ่านหนังสือ หรือดูหนังก็ไม่ค่อยไหว
- ปวดหัว พร้อมมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนประกอบด้วย
- กิจกรรมบางอย่าง ยิ่งทำยิ่งปวด เช่น การขยับศีรษะ หรือการเดิน
- ปวดหัวจนนอนไม่หลับ
ปัจจัยที่ทำให้อาการปวดหัวไมเกรนกำเริบมีมากมายแตกต่างกันไปในแต่ละคน บางก็มาจากความเครียดสะสม หรืออาจมาจากการอดนอน นอนมากเกินไป อากาศร้อน เหนื่อยมาก อดอาหาร หรือมาจากอาหารบางชนิด เช่น ไส้กรอกที่มีดินประสิว หรือไนเตรทที่กระตุ้นอาการของโรคไมเกรนได้ หรืออาหารจีนที่มีผงชูรสมาก ดังนั้นเราจึงควรสังเกตอาการของตัวเองว่าจะปวดหัวไมเกรนเมื่อไร เพราะอะไร
วิธีลดอาการปวดหัว
- หากเป็นอาการปวดหัวเพราะเครียด ให้วางมือจากสิ่งที่ทำให้เครียด เช่น อ่านหนังสือสอบ ทำงานต่างๆ รวมถึงการทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ทำให้เราใช้สมองหนัก เช่น การอ่านหนังสือ หรือภาพยนตร์ และบทสนทนาพูดคุยที่เป็นเรื่อบจริงจัง เป็นต้น
- ผ่อนคลายสมองด้วยการหากิจกรรมสบายๆ ทำ เช่น ฟังเพลงจังหวะสบายๆ เบาๆ รับประทานอาหารอร่อยๆ อาบน้ำ สระผม ทำงานอดิเรกที่ชอบ เป็นต้น
- สามารถเลือกหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดได้ เช่น ชาคาโมมายล์ เทียน น้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ หรือกลิ่นอื่นๆ ที่ทำให้หลับสบายมากยิ่งขึ้น
- หากทำทุกอย่างแล้วไม่ดีขึ้น สามารถกินยาแก้ปวดได้
>> ยาพาราเซตามอล เม็ดเดียว หรือ 2 เม็ดดี? - หลีกเลี่ยงต้นเหตุของอาการที่ทำให้ปวดหัวไมเกรน เช่น นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีดินประสิว หรือไนเตรท หลีกเลี่ยงอาหารที่มีผงชูรสเยอะเกินไป หลีกเลี่ยงสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวเกินไป หรือไม่ควรอดอาหารมากจนเกินไป เป็นต้น
อนึ่ง หากมีอาการปวดหัวมากกว่า 2-3 ครั้งใน 1 สัปดาห์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย และวินิจฉัยสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหัวบ่อยๆ เพราะอาจเป็นสัญญาณอันตรายของโรคอื่นๆ ได้