8 สัญญาณอันตราย "ประจำเดือน" ผิดปกติ

8 สัญญาณอันตราย "ประจำเดือน" ผิดปกติ

8 สัญญาณอันตราย "ประจำเดือน" ผิดปกติ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ เตือน 8 สัญญาณอันตราย ของประจำเดือนผิดปกติ ทำให้เกิดโรคร้าย และเป็นอันตรายถึงชีวิต หากพบอาการผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์อย่างเร่งด่วน

นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองอธิบดีกรมการแพทย์และโฆษกกรมการแพทย์ กล่าวว่า ผู้หญิงเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ อายุเฉลี่ยของการมีประจำเดือนครั้งแรกอยู่ที่ 12 ปี 7 เดือน ซึ่งเลือดประจำเดือนเกิดจากการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกประกอบด้วย ฮอร์โมน 2 ชนิด ได้แก่ เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการตกไข่ โดยแต่ละรอบเดือนเฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง ผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีอาการปวดท้องน้อย ในช่วงเวลา 8 – 48 ชั่วโมง หลังมีประจำเดือน เนื่องจากร่างกายมีการหลั่งสารเคมี ทำให้เกิดการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก และหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงมดลูกมีการหดเกร็ง ร่วมกับอาการปวดเมื่อยหลัง อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายอุจจาระเหลว ปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก นอกจากนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านพฤติกรรม เช่น หงุดหงิดง่าย วิตกกังวล ซึ่งอาการดังกล่าวจะลดลงหรือหายไปเมื่อประจำเดือนหมด

นายแพทย์สุกรม ชีเจริญ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวเพิ่มเติมว่า ผู้หญิงบางรายที่มีประจำเดือนผิดปกติ อาจมองข้ามโดยคิดว่าไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต  ซึ่งสามารถสังเกตร่างกายตัวเองได้จาก 8 สัญญาณเตือนอันตราย ได้แก่

  1. รอบเดือนมาผิดปกติ ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล หรือผู้หญิงบางรายใช้ยาคุมกำเนิด จึงส่งผลให้รอบเดือนขาด รังไข่ทำงานผิดปกติ สิวขึ้น อารมณ์แปรปรวนอย่างรุนแรง 

  2. ระบบขับถ่ายผิดปกติ รู้สึกปวดที่ท้องน้อยในขณะปัสสาวะ ท้องเสียในช่วงมีประจำเดือน

  3. ปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรง ร่วมกับอาการปวดหลัง หรือปวดท้องขณะมีเพศสัมพันธ์ สาเหตุอาจเกิดจากภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน หรือเนื้องอกในมดลูก

  4. ประจำเดือนมามากกว่า 7 วันขึ้นไปอาจเกิดจากความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ เช่น มีเนื้องอกในมดลูก มดลูกอักเสบ เป็นต้น

  5. ปวดหลังส่วนล่างอย่างรุนแรง สาเหตุมาจากสารโพรสตาแกลนดิน ทำให้มดลูกบีบตัวมากและยังขัดขวางการไหลเวียนของออกซิเจนในกล้ามเนื้อรอบมดลูก

  6. ลิ่มเลือดประจำเดือนมีขนาดใหญ่ผิดปกติ เสี่ยงต่อการเป็นเนื้องอกในมดลูก

  7. มีหยดเลือดออกมาในช่วงที่ไม่มีประจำเดือนอาจเป็นผลมาจากการใช้ยาคุมกำเนิด เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ โรคไทรอยด์ หรือภาวะท้องนอกมดลูก

  8. ประจำเดือนมีกลิ่นเหม็นมากกว่าปกติ เกิดจากการติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียภายในช่องคลอด ทำให้มดลูกอักเสบได้ หากพบอาการผิดปกติดังกล่าว ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาก่อนที่จะลุกลามเป็นอันตรายถึงชีวิต
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook