สาวๆ ต้องรู้! ล้างยังไงให้น้องสาวสะอาด
การสวนล้างช่องคลอด ผู้หญิงหลายๆ คน ยังไม่ทราบว่า คืออะไร? ทำไปเพื่ออะไร? จึงขอให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องที่สุดแสนจะอ่อนโยนนี้ ให้สาวๆ ได้รู้จักกัน
การสวนล้างช่องคลอด คืออะไร?
การสวนล้างช่องคลอด คือการใช้น้ำ หรือสารทำความสะอาดต่าง ๆ ฉีดเข้าไปในช่องคลอด (Vagina) เพื่อทำความสะอาดช่องคลอดนั่นเอง หรืออาจจะใช้นิ้วมือตนเองเข้าไปทำความสะอาดข้างในช่องคลอด แต่การใช้นิ้วมือ จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวัง ไม่ไว้เล็บยาว และต้องสะอาดเสมอ
จำเป็นต้องทำการสวนล้างช่องคลอด หรือไม่?
คำตอบคือ ไม่จำเป็น เพราะ การสวนล้างช่องคลอด อาจทำให้เกิดปัญหาตามมาทีหลังได้ และ ช่องคลอดของผู้หญิงสามารถทำความสะอาดในตัวเองอยู่แล้ว ด้วยการคง PH Balance ไว้อย่างเป็นธรรมชาติ
แล้วรู้หรือไม่ว่า ช่องคลออดของผู้หญิง มีแบคทีเรียดี (Doderlein bacilli) อยู่จำนวนมาก ฉะนั้นการสวนล้างช่องคลอด แม้กระทั่งการใช้น้ำเปล่า ก็เหมือนกับการที่เราล้างเอาแบคทีเรียดีออกไปจากช่องคลอดด้วยนั่นเอง และ อาจทำให้เกิดอาการอักเสบในช่องคลอด ได้อีกด้วย
จะทำอย่างไรให้ช่องคลอด มีสุขภาพที่ดี?
- รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ
- ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 8 แก้ว ต่อวัน
- ออกกำลังกายอยู่เสมอ เช่น การวิ่งจ็อคกิง (Jogging), โยคะ เป็นต้น
- มีเพศสัมพันธ์ด้วยการใช้ถุงยางเสมอ หรือ หมั่นเช็คสุขภาพอวัยวะเพศของคู่รัก และตัวเราเองเป็นประจำ ก่อนมีเพศสัมพันธ์
- ในระหว่างที่มีประจำเดือน อาจจะล้าง"แคมช่องคลอด" (Vulva) มากกว่า 1 ครั้ง/วัน ด้วยการล้าง จาก "บน ลง ล่าง" ด้วยน้ำอุ่น ๆ ก็เพียงพอแล้ว
- ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่ต้องใช้สบู่ ในการทำความสะอาดช่องคลอด แต่ถ้าอยากใช้ ให้เลือกใช้สบู่ที่ไม่มีกลิ่น (Unscented) ไม่มีสี (Colorless) และอ่อนโยน (Mild) เท่านั้น
ช่องคลอดมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ควรทำอย่างไร?
ก่อนอื่นต้องบอกว่า ช่องคลอดของทุกคน จะมีกลิ่นอยู่แล้ว บางคนอาจมีกลิ่นจาง ๆ บางคนอาจมีกลิ่นแรง โดยกลิ่นของช่องคลอด จะเปลี่ยนแปรไปตามการบริโภคอาหาร และ ประจำเดือน นั่นเอง
ถ้าช่องคลอดมีกลิ่นแรง ไม่พึงประสงค์ อาจต้องได้รับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (แพทย์นารีเวช) เพื่อเล่าถึงอาการ และได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องนั่นเอง
ข้อควรระวังใน การสวนล้างช่องคลอด
ถึงแม้หมอหลายท่านไม่แนะนำให้สวนล้างช่องคลอด แต่ก็ยังมีผู้หญิงหลายคน ที่ทำการสวนล้างช่องคลอดเป็นปกติ ฉะนั้น ลองมาดูข้อควรระวังการสวนล้างช่องคลอด กันหน่อยว่า มีอะไรบ้าง
- ในคุณผู้หญิงที่ยังโสดไม่มีเพศสัมพันธ์ ไม่จำเป็นต้องสวนล้างภายใน
- จะสวนล้างภายในก็ต่อเมื่อมีกลิ่นอับ หรือมีกลิ่นที่ไม่พึงปรารถนา หลังมีเพศสัมพันธ์ หรือมีตกขาวมาก
- กรณีที่มีการอักเสบอย่างรุนแรง เช่น ตกขาวเป็นสีเหลือง มีหนองไหล มีอาการเจ็บ ปวด แสบภายใน ไม่ควรสวนล้างแต่ควรไปพบแพทย์ดีกว่า
- หัวสวนล้างภายในควรสะอาด มีการต้มฆ่าเชื้อ หรือเป็นชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง
- ไม่ควรสวนล้างเกินอาทิตย์ละ 2 - 3 ครั้ง
- คุณผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ หรือมีเลือดออกผิดปกติไม่ควรสวนล้าง และไม่ควรบีบน้ำยาเข้าช่องคลอดอย่างรุนแรง เพราะจะเกิดการแท้ง หรือการคลอดก่อนกำหนดได้
- ไม่ควรใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคอย่างแรงเข้าไปสวน เพราะจะทำให้แบคทีเรียชนิดดีตายหมด และเกิดการอักเสบจากแบคทีเรียตัวร้ายขึ้น
- บริเวณนี้บอบบาง และ ละเอียดอ่อน ไม่ควรใช้น้ำยาที่มีฤทธิ์กัด หรือ ทำลายเนื้อเยื่อ เช่น แอลกอฮอล์ ด่างทับทิม ทิงเจอร์ไอโอดีน เข้าไปสวนล้าง เป็นต้น
- เลือกน้ำยาสวนล้าง ที่เป็นกรดอ่อน ๆ ไม่ทำลายแบคทีเรียชนิดดี ที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อภายใน
- กรณีที่ใช้หัวสวน ไม่ควรฉีดน้ำเข้าไปล้างอย่างรุนแรง เพราะ จะทำให้อวัยวะภายในเกิดการบาดเจ็บได้
- ถ้าอยากมีบุตร อย่าสวนล้างหลังมีเพศสัมพันธ์
- การสวนล้างอาจทำให้เยื่อบุช่องคลอดแห้ง และเกิดอาการแพ้น้ำยาสวนล้างได้ ถ้ามีอาการแสบ คับ เจ็บ ควรหยุดสวนล้างทันที
- กรณีที่สวนล้างโดยใช้หัวสวน ไม่ควรสอดหัวสวน ลึกเกินไป จำไว้ว่าช่องคลอดนั้น ลึกไม่เกิน 7 เซนติเมตร หรือไม่เกินขนาดความยาวของนิ้วชี้ของผู้หญิงนั่นเอง