ชุมชนงดดื่ม เทรนด์นี้มีที่มา
“การจะเลิกเหล้านั้น สภาพแวดล้อมมีผลต่อความคิดของชาวบ้านค่อนข้างมาก การที่พวกเรา ประชาคมทั้ง 6 หมู่บ้าน ช่วยกันมาสร้างบรรยากาศก่อนเข้าพรรษา ทำให้การเลิกเหล้าเข้าพรรษาของคนในชุมชนสำเร็จเห็นผล”
นายมานะ วุฑฒยากร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังกรด อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร เล่าถึงความพร้อมเพรียงของอบต. วังกรด ที่ร่วมใจกันสร้างชุมชนปลอดเหล้าช่วงเข้าพรรษา โดยเริ่มจากการเชื้อเชิญให้ผู้ที่ประสงค์จะงดเหล้า กรอกใบสมัครแสดงความจำนงพร้อมรับเสื้อสุดเท่ ไปใส่เดินรณรงค์ร่วมกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ จนกลายเป็นภาพความประทับใจของริ้วขบวนยาวเหยียด
“ระหว่างเดินก็พูดคุยกับชาวบ้านข้างทางไป จนถึงสุดทางเทศบาลที่วัดพระนอนสุขุมาราม ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมจิตใจ ที่นั่นจะมีการนิมนต์หลวงพ่อท่านมาเทศน์ให้แง่คิด ตามด้วยการทำพิธีกล่าวคำปฏิญาณ สัญญาใจว่าจะไม่กินเหล้าตลอดช่วงสามเดือนของการเข้าพรรษา”
นายมานะเล่าว่า ในช่วงนั้นชุมชนจะคึกคักไปด้วยกระแสการงดเหล้า ทุกคนร่วมมือช่วยกันทำป้ายรณรงค์ เขียนคำขวัญตัวโต ๆ ติดไปทั้งชุมชน คนเฒ่าคนแก่ก็ทำไม้กวาดทางมะพร้าวเอาไว้แจกตามวัด ผู้ชายก็มาช่วยกันปั้นโอ่งเอาไว้ใส่น้ำเพราะตรงกับช่วงหน้าฝนพอดี ส่วนกลุ่มแม่บ้านก็มาทำกิจกรรมถักพรมเช็ดเท้าจากพลาสติค หรือแม้แต่ลูกเล็กเด็กแดงกลุ่มเยาวชนวัยรุ่นเอง ก็ยังร่วมกันเป็นกระบอกเสียง ไปช่วยกันพูดที่หอกระจายเสียงตามวัด ออกอากาศขอบคุณร้านค้าที่งดจำหน่ายสุราในช่วงเข้าพรรษา
“ที่สำคัญเรายังได้ความร่วมมือจากแพทย์ประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล มาช่วยตรวจสุขภาพคนที่มาลงทะเบียนสมัครใจงดเหล้าทั้งช่วงก่อนและหลังเข้าพรรษา ซึ่งจะตรวจละเอียดทั้งความดัน เบาหวาน หัวใจ ตับ ปอด วัดกันให้เห็น ๆ ไปเลยว่า สุขภาพดีขึ้นจริงมั้ย”
นอกจากเรื่องสุขภาพ การเลิกเหล้ายังส่งผลในด้านอื่น ๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ชาวบ้านรู้รักสามัคคี เรื่องเศรษฐกิจครอบครัว
นายชัย เทียมผล รองประธานสภา อบต. วังกรด คือหนึ่งในผลผลิตจากกระแสรณรรงค์เชิญชวนให้งดเหล้าของชุมชนแห่งนี้ นายชัยเล่าว่า เดิมทีตนเองก็เหมือนครอบครัวทั่วไป ถึงเวลาแดดร่มลมตกทำงานมาเหนื่อย ๆ ก็กินเหล้า สูบบุหรี่ เฮฮากับเพื่อนฝูง เจ้าตัวเล่าว่าสมัยที่ยังกินเหล้านั้น ครอบครัวไม่ค่อยเป็นสุข เนื่องจากดื่มแล้วโมโหร้าย ใครพูดอะไรก็ไม่ถูกใจ ทุกอย่างดูขวางหูขวางตาไปหมด
“เลยตัดสินใจเลิกเหล้า โดยเริ่มจากช่วงเข้าพรรษาสามเดือนก่อน แล้วก็เลิกต่อมาเรื่อย ๆ พอเลิกได้แบบเด็ดขาดนี่ โอ้โห คุณภรรยาเอาใจน่าดูเลย (หัวเราะ) วันที่ผมขึ้นรับรางวัลคนเลิกเหล้าของชุมชน เมียซื้อรองเท้าหนังอย่างดีให้ใส่เลยนะ หล่อมาก เอาใจผมสารพัด ดีใจที่ผมเลิกเหล้าได้ เดี๋ยวนี้ ขออะไรได้หมดไม่เคยขัดเลย แล้วดูสิ ชีวิตผมวันนี้ ครอบครัวผมวันนี้ ดีขึ้นทุกทาง เมียก็หน้าตาสดชื่นมีความสุข”
จากความสำเร็จจากการงดเหล้าช่วงเข้าพรรษา ทำให้ชุมชนแห่งนี้ขยายการรรรงค์ไปสู่เทศกาลอื่น ๆ อีกด้วย
“ตอนนี้งานศพ งานแต่ง งานกฐิน แห่นาค ปีใหม่ สงกรานต์ ลอยกระทง ที่อื่นอาจเมา แต่ที่นี่งดเหล้า ชาวบ้านก็ทำกันจนเป็นวัฒนธรรมของที่นี่แล้ว ทุกคนให้ความร่วมมือดี ไม่ต้องไปบังคับกะเกณฑ์อะไร ผมคิดว่าเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การรณรงค์ของเราได้ผลจริงจัง คือเราจัดกิจกรรมบ่อย กระตุ้นซ้ำ ๆ เดินไปไหนก็เห็นแต่เรื่องงดเหล้าๆเข้าหูเข้าตาทุกวัน มีการจัดตั้งกลุ่มแยกย่อยไปตามสถานภาพของเขา กลุ่มแม่บ้านงดเหล้า ทำกิจกรรมกับพวกภรรยา สำหรับคนที่กินเหล้า พอมีกิจกรรมเป็นกลุ่มเป็นก้อน เขาก็ชักชวนกันงด ตัวเองงดได้ก็กลายมาเป็นอาสาสมัคร ชวนคนอื่นงดต่อ ๆ ไป” นายก อบต. วังกรดเล่าให้ฟังด้วยความภูมิใจ
ปัจจุบัน อบต. วังกรด เป็นหนึ่งในชุมชนที่ได้รับการกล่าวขานถึงความสำเร็จในการจัดกิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษา จนกลายเป็นต้นแบบสำหรับชุมชนอื่น ๆ แต่เหนืออื่นใด ที่นี่คือภาพสะท้อนให้เห็นว่า ความร่วมมือของคนในชุมชนคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ช่วยให้คนเลิกเหล้าได้สำเร็จ
ดังที่มีคนกล่าวไว้ว่า การเลิกเหล้าอยู่ที่ใจ แต่ถ้ายิ่งมีหลายใจร่วมส่งพลัง รับรองว่า การเป็นชุมชนปลอดเหล้าก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน
หากชุมชนใดอยากปลอดเหล้าแบบนี้ สามารถหาข้อมูลความรู้เพิ่มเติมได้ที่นี่ http://stopdrink.com/library/Knowledge/Knowledge.htm หรือติดศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา โทร.1413
(Advertorial)