นักวิจัยเตือนยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่า "กัญชา" ช่วยเรื่องสุขภาพจิตได้

นักวิจัยเตือนยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่า "กัญชา" ช่วยเรื่องสุขภาพจิตได้

นักวิจัยเตือนยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่า "กัญชา" ช่วยเรื่องสุขภาพจิตได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นักวิจัยในออสเตรเลียกล่าวว่า หลักฐานที่ว่าการใช้กัญชาสามารถช่วยรักษาอาการป่วยทางจิต เช่น ความวิตกกังวล โรคซึมเศร้า และโรคจิตหลอน ได้นั้น ยังไม่มีน้ำหนักมากพอ และว่าแพทย์ควรใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการตัดสินใจให้การรักษาแก่ผู้ป่วยด้วยวิธีนี้

นักวิจัยทำการตรวจสอบการศึกษาทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับผลกระทบของกัญชาทางการแพทย์ที่มีต่อความผิดปกติทางสุขภาพจิต 6 ประเภท และพบว่ายังคงขาดหลักฐานเกี่ยวกับประสิทธิผลของกัญชาการแพทย์อยู่

Louisa Degenhardt ผู้เชี่ยวชาญด้านยาและแอลกอฮอล์ ที่มหาวิทยาลัยนิวเซาธ์เวลส์ ในนครซิดนีย์ ออสเตรเลีย กล่าวว่า การค้นพบของคณะนักวิจัยมีผลกระทบที่สำคัญสำหรับหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย อังกฤษ และแคนาดา ซึ่งเป็นประเทศที่แพทย์พยายามนำกัญชามาใช้กับผู้ป่วยเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยบางชนิด

ทั้งนี้ ทหารผ่านศึกบางคน และประชาชนบางกลุ่มที่ต้องเผชิญเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจจนเกิดความเครียด (PTSD) มีภาวะซึมเศร้า และวิตกกังวล กล่าวว่ากัญชาช่วยบรรเทาอาการบางอย่างของพวกเขาได้

ทีมวิจัยของ Louisa Degenhardt ต้องการที่ตรวจสอบหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดของกัญชาการแพทย์ทุกประเภท เพื่อดูว่าสารในกัญชาสามารถหยุดหรือลดอาการของภาวะซึมเศร้า ความวิตกกังวล โรคสมาธิสั้น (ADHD) ความผิดปกติของระบบประสาท PTSD และโรคจิตหลอนได้หรือไม่

นักวิจัยตรวจสอบการศึกษาทั้งที่ตีพิมพ์และไม่ได้เผยแพร่ 83 ฉบับ ที่ครอบคลุมผู้เข้าร่วมการศึกษา 3,000 คนในระหว่างปี พ.ศ. 2523 และปี พ.ศ. 2561 และพบว่าการใช้กัญชาทางการแพทย์ทำให้อาการของโรคจิตหลอนแย่ลง และไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญใด ๆ ต่ออาการการเจ็บป่วยทางจิตชนิดอื่น ๆ

นักวิจัย Degenhardt กล่าวต่อผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ว่า สาร Cannabinoids มักจะถูกนำไปใช้ในการรักษาอาการทางสุขภาพจิตที่หลากหลาย แต่ทั้งแพทย์และบรรดาผู้ใช้จำเป็นต้องตระหนักว่า หลักฐานที่พิสูจน์ในเรื่องนี้ยังมีอยู่น้อย

นอกจากนี้กัญชายังถูกนำไปใช้ในการรักษาอาการอื่น ๆ เช่น อาการคลื่นไส้ โรคลมชัก และอาการบาดเจ็บทางสมอง แต่การศึกษายังไม่ได้ตรวจสอบผลการรักษาของอาการเหล่านั้น

Tom Freeman ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตและการติดยาเสพติด ที่มหาวิทยาลัย Bath ประเทศอังกฤษ ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการศึกษานี้ กล่าวว่า การค้นพบนี้แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการทดสอบกัญชาทางการแพทย์ โดยใช้วิธีทดสอบคุณภาพสูงเพื่อเสริมสร้างหลักฐานให้แน่นขึ้น

ผลการศึกษานี้ตีพิมพ์อยู่ในวารสาร The Lancet Psychiatry

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook