“พยาธิในช่องคลอด” อันตรายที่ผู้หญิงควรระวัง
พยาธิในช่องคลอด เกิดจากการติดเชื้อที่สามารถตรวจพบได้ในน้ำอสุจิ และน้ำในช่องคลอด ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และกลุ่มเสี่ยงคือกลุ่มคนที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีอาการตกขาวผิดปกติ แสบคันช่องคลอด ควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกต้อง
นอกจากโรคทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยได้ ยังมี “พยาธิในช่องคลอด” ที่สามารถพบได้ในกลุ่มที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย และมักอันตรายหากหากไม่รักษาไม่ถูกวิธี
พยาธิในช่องคลอด มาจากไหน ?
รศ.นพ. สุรสิทธิ์ ชัยทองวงศ์วัฒนา จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ให้ข้อมูลว่า พยาธิในช่องคลอด เกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัวที่มีชื่อว่า “ทริโคโมแนส” ซึ่งเชื้อมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ตรวจพบได้ในน้ำอสุจิ และน้ำในช่องคลอด ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
การติดต่อของพยาธิในช่องคลอด
พยาธิในช่องคลอด สามารถติดต่อได้ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ พบได้ในกลุ่มที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ
อาการเริ่มต้น หากมีพยาธิในช่องคลอด
ในผู้หญิง อาจพบอาการเหล่านี้
- พบตกขาวออกมามากกว่าปกติ
- ตกขาวมีกลิ่นแรง
- แสบคันช่องคลอด
- ปัสสาวะขัด
การรักษาเมื่อมีพยาธิในช่องคลอด
หากพบอาการผิดปกติที่ช่องคลอด ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจประเมิน และรับการรักษาที่เหมาะสม โดยแพทย์อาจพิจารณาให้รับประทานยาปฏิชีวนะ หากได้รับยามาให้รับประทานยาตามจำนวนที่แพทย์สั่ง ไม่ควรหยุดยาเองแม้ว่าจะไม่มีอาการแล้วก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงในการดื้อยาในอนาคตงกันพยาธิในช่องคลอด
ไม่ควรเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ ควรมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ผ่านการตรวจร่างกายมาแล้วว่าไม่ได้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และหากมีอาการผิดปกติที่ช่องคลอด ควรรีบพบแพทย์โดยทันที