5 วิธี “ลดน้ำหนัก” สุดฮอตประจำปี 2019
จากการสำรวจของ Google ในปี 2019 นี้ คนไทยให้ความสนใจกับวิธีลดน้ำหนักในแบบใหม่ ๆ ทั้งการออกกำลังกายแบบแอโรบิค วิธีอดมื้ออาหาร หรือ IF (Intermittent Fasting) การกินอาหารแบบคีโตเจนิค การออกกำลังกายด้วยการวิ่ง และการดื่มโปรตีนแทนมื้ออาหาร ทุกวิธีปลอดภัยหากได้รับคำแนะนำจากแพทย์ นักโภชนาการอาหาร และผู้เชี่ยวชาญอย่างเคร่งครัด
เป็นที่น่าสนใจว่าในช่วงปี 2019 ที่ผ่านมา กระแสของการกินยาลดความอ้วนเริ่มซาลงไปมาก เพราะมีการให้ความรู้กับประชาชนถึงอันตรายของยาลดความอ้วนที่ผิดกฎหมายกันอย่างแพร่หลาย และสามารถปลูกฝังค่านิยมในการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีเป็นผลสำเร็จในระดับหนึ่ง ซึ่งในปี 2019 นี้มีวิธีลดน้ำหนักที่ได้รับความนิยมในหมู่คนไทย จากการสำรวจของ Google เอาไว้ ดังนี้
อันดับ 5 โปรตีนแทนมื้ออาหาร
การกินโปรตีนแทนมื้ออาหารยังคงได้รับความนิยมทั้งเพศหญิง และเพศชาย โดยเป็นรับประทานโปรตีนเชค (ผสมผงโปรตีนกับนม หรือน้ำ) ดื่มแทนมื้ออาหารบางมื้อของวัน เพื่อเป็นการเพิ่มโปรตีนให้กับร่างกาย และลดปริมาณพลังงานที่จะได้รับจากมื้ออาหารปกติ โดยสูตรของการกินโปรตีนแทนมื้ออาหารต้องได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ นักโภชนาการ หรือผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อคำนวณปริมาณโปรตีนที่จะต้องรับประทาน และอาจเสริมด้วยการกินวิตามินอื่น ๆ ให้ร่างกายยังได้รับสารอาหารอย่างพอเพียง นอกจากนี้มักได้รับคำแนะนำให้ลดการรับประทานข้าวขาว แป้งขาว น้ำมัน กระเทียมเจียว อาหารน้ำตาลสูง อาหารไขมันสูง ในมื้อปกติควบคู่ไปด้วย
วิธีนี้ได้รับความนิยมเพราะยังสามารถรับประทานอาหารครบทุกมื้อได้ตามปกติ และโปรตีนทดแทนมื้ออาหารก็ช่วยให้อิ่มท้องได้โดยไม่ต้องอดข้าวให้ทรมาน จึงอาจะเหมาะสำหรับสายกินดุ คนที่อยู่ในภาวะน้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วน แต่ขอย้ำอีกครั้งว่าต้องปรึกษาแพทย์ประจำตัว นักโภชนาการ หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มกิน
อันดับ 4 วิ่ง
การวิ่งยังคงเป็นเทรนด์ออกกำลังกายที่เป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องมานานหลายปี และยังไม่มีท่าทีว่าจะหมดโปรกันง่าย ๆ สาเหตุเป็นเพราะอากาศในเมืองไทย โดยเฉพาะช่วงเช้า เหมาะกับการวิ่ง ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป ไม่เหมือนเมืองนอกที่อาจจะหนาวทรมานจนเกินไป หากอากาศร้อนมาก ๆ เรายังสามารถเลือกวิ่งในที่ร่มอย่างฟิตเนส หรือลู่วิ่งในที่ร่มที่มีให้บริการในบางสถานที่ได้อีกด้วย นอกจากนี้การวิ่งยังเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ต้องใช้สกิลอะไรมาก และยังไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์อะไรมากมาย จริง ๆ แล้วแค่เสื้อผ้าใส่สบาย ๆ และรองเท้าวิ่งดี ๆ สักคู่ ก็สามารถออกกำลังกายได้แทบจะทุกที่
อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายเรื่องที่นักวิ่งมือใหม่ และคนที่วิ่งมานานแล้วควรทราบเอาไว้ เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ หรือโรคภัยอันตรายที่อาจเกิดกับนักวิ่งได้ เช่น โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนา ที่อาจทำให้หัวใจสายเฉียบพลัน และด้วยความประมาทว่าออกกำลังกายเป็นประจำ น่าจะแข็งแรงดี อาจทำให้ละเลยการตรวจสุขภาพไปได้ ดังนั้นแม้ว่าจะเพิ่งเริ่มวิ่ง หรือวิ่งมานานแล้ว ก็ยังควรหาข้อมูลในการวิ่งอย่างปลอดภัย รวมถึงตรวจสุขภาพเป็นประจำทุก ๆ 6 เดือนหรือ 1 ปีด้วย
>> 5 เหตุผลที่ควรตรวจสุขภาพก่อน "วิ่ง"
>> เช็กลิสต์ 15 ข้อ เตรียมตัวให้ดีก่อนออก “วิ่ง” เลี่ยงบาดเจ็บ-เสียชีวิต
>> อายุมากกว่า 35 วิ่งหนักเสี่ยง “หัวใจขาดเลือด” อาจเสียชีวิตได้
>> “ปวดขา” หลังวิ่ง-ออกกำลังกาย ควรพักหรือวิ่งต่อ ?
อันดับ 3 คีโตเจนิค
การได้กินอาหารไขมันสูง ๆ เช่น หมูสามชั้น เนื้อย่าง อาจเป็นสวรรค์ของใครหลาย ๆ คน แต่ต้องยอมยับยั้งชั่งใจในบางมื้อเพราะกลัวอ้วน แต่ “คีโตเจนิค” แหกกฎทุกอย่าง เพราะคุณสามารถกินอาหารมัน ๆ จนปากมันแผล่บ แต่ก็ยังลดความอ้วนได้ โดยหลักการทำงานของคีโตเจนิค อธิบายคร่าว ๆ ก็คือ การกินอาหารที่มีไขมันสูง มีโปรตีนที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เมื่อทานคาร์โบไฮเดรตน้อย แทนที่ร่างกายจะดึงคาร์โบไฮเดรตไปใช้เป็นพลังงานเหมือนปกติ ร่างกายจึงหันไปดึงพลังงานจากไขมันแทนนั่นเอง
แม้ว่าจะดีต่อร่างกาย และช่วยลดความอ้วนได้จริง แต่การกินอาหารแบบคีโตเจนิคมีข้อจำกัดค่อนข้างมาก ง่าย ๆ เช่น งดกินแป้งและน้ำตาล (หรือแม้กระทั่งสารให้ความหวานแทนน้ำตาลบางชนิด) ผลข้างเคียงจากการกินคีโตในบางราย เช่น มีอาการหวัดคีโต ผมร่วง ผื่นขึ้น หรือหรือผู้ป่วยเบาหวานบางประเภท และผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคไต ก็อาจไม่สามารถกินคีโตได้เช่นกัน นอกจากนี้การกินคีโตที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ในระยะสั้น แต่หากเป็นในระยะยาวแล้วยังมีความเสี่ยงที่จะกลับมาอ้วนเหมือนเดิม หรือมากกว่าเดิมได้ และยังเสี่ยงผลข้างเคียงอื่น ๆ จากการรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ (กินอาหารบางหมู่ไม่เพียงพอ) รวมถึงการกะปริมาณของไขมันที่ทาน ที่หากกะปริมาณผิดพลาด อาจส่งผลในทางตรงกันข้ามได้เช่นกัน
ทั้งนี้ การกินคีโตเจนิค ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และหาข้อมูลการรับประทานอย่างถูกต้องให้มาก ๆ เพื่อป้องกันอันตราย และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ หากรับประทานอย่างพอเหมาะ และถูกวิธี รับรองว่าลดน้ำหนักได้อย่างแน่นอน
>> คีโตเจนิค (Ketogenic Diet) คืออะไร? ลดความอ้วนด้วยไขมันแบบไหน?
>> "คีโตเจนิค" กินไขมันลดอ้วน แต่กินไม่ถูกวิธีอาจยิ่งอ้วน
>> เช็กก่อนกิน “คีโตเจนิค” ใครควรกิน-ไม่ควรกิน
>> “คีโตเจนิค” กับข้อจำกัดที่ควรระวัง
อันดับ 2 งดมื้ออาหาร (Intermittent Fasting) หรือ IF
การงดมื้ออาหาร (Intermittent Fasting) หรือ IF เป็นวิธีลดน้ำหนักอย่างง่ายที่สุดเท่าที่คนขี้เกียจหลาย ๆ คนให้การยอมรับว่าไม่มีวิธีไหนง่ายเท่านี้อีกแล้ว เพียงแต่ในความง่ายนั้นมีความ “ยาก” อยู่สูงกว่าที่คิด เพราะมันคือการจำกัดเวลาในการรับประทานอาหาร “อย่างเข้มงวด” กล่าวคือ เราสามารถกินอาหารได้เฉพาะเวลาที่เรากำหนดเอาไว้เองเท่านั้น หลักที่คนส่วนใหญ่เลือกทำกัน คือหลัก 16/8 คือกินอาหารได้ 8 ชั่วโมง (7.00-15.00 หรือ 9.00-17.00 น.) และงดอาหาร 16 ชั่วโมง (15.00-7.00 น.หรือ 17.00-9.00 น.)
ข้อดีของ IF คือ ช่วยลดน้ำหนัก ลดเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกาย ลดระดับน้ำตาล และคอเลสเตอรอลในเลือด และในกลุ่มที่กิน IF ร่วมกับออกกำลังสร้างกล้ามเนื้อแบบ resistance training ร่วมด้วย (การออกกำลังกายแบบแรงต้าน เช่น วิดพื้น ซิทอัพ ยืนย่อหลังติดกำแพง ฯลฯ ) จะช่วยให้มวลกล้ามเนื้อไม่หายไปกับน้ำหนักอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร หรือมีโรคประจำตัวอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนเริ่มกินแบบ IF
>> ลดน้ำหนักให้ได้ผลด้วย Intermittent Fasting (IF)
>> งดมื้ออาหาร (Intermittent Fasting) เทรนด์ใหม่ “ลดน้ำหนัก” อย่างถูกวิธี
>> งดมื้ออาหาร (Intermittent Fasting) VS จำกัดปริมาณอาหาร วิธีไหนช่วย “ลดน้ำหนัก” ได้ดีกว่ากัน
>> 5 ข้อควรรู้ก่อนเริ่ม “งดมื้ออาหาร” (Intermittent Fasting)
อันดับ 1 แอโรบิค
อันดับ 1 น่าแปลกมากที่คนส่วนใหญ่ยังคงให้ความสนใจกับวิธีลดน้ำหนักแบบคลาสสิก แต่ก็เป็นเรื่องดีที่วิธีลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายแบบแอโรบิคยังคงเป็นที่นิยม อาจเป็นเพราะว่าในปีที่นี้มีรูปแบบในการแอโรบิคที่แปลกใหม่ และน่าสนุกกว่าเดิมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกระแสของ K-POP ที่ทำให้มีคลิปเต้นแอโรบิคด้วยเพลง และท่าเต้นของศิลปิน K-POP มีจำนวนเข้าชมใน YouTube สูงมาก จนคำว่า แอโรบิคเกาหลี ติดเป็นคำค้นหาของ Google เป็นอันดับต้น ๆ และการผสมผสานการเต้นแอโรบิคให้เข้ากับเกมอย่างเกม Just Dance 2020 ที่เวอร์ชั่นล่าสุดมีเพลง K-POP สุดฮอตอย่าง BLACKPINK - Kill This Love, 2NE1 - I Am the Best, TWICE - Fancy และยังมีเพลงสากลสุดฮิตอย่าง Billie Eilish - bad guy, Khalid - Talk, DJ Snake ft. Selena Gomez, Ozuna, Cardi B - Taki Taki, Ariana Grande - 7 Rings และเพลงสุดน่ารักอย่าง Baby Shark อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีแอโรบิครูปแบบสนุก ๆ อื่น ๆ ตามคลาสในฟิตเนสที่น่าสนใจอีกมากมาย ทั้งง่ายทั้งสนุกจนลืมเหนื่อยแบบนี้ จึงทำให้แอโรบิคยังคงเป็นวิธีลดน้ำหนักที่คนไทยนิยมที่สุดในปี 2019 ไปครองนั่นเอง
แล้วคุณล่ะ ในปี 2019 นี้คุณลดน้ำหนักได้ตามที่ตั้งใจหรือเปล่า ถ้ายัง เรามาเริ่มต้นกันใหม่ในปี 2020 ด้วยกันนะ