รู้จัก "ครอบแก้ว" ศาสตร์จีน บำบัดอาการปวดเมื่อย
รู้สึกเบื่อหรือเปล่า ? ที่ต้องคอยรับประทานยาเม็ดใหญ่ๆ เวลาปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือต้องคอยเข้าร้านนวดอยู่บ่อยๆ วันนี้ Hello คุณหมอ จะพามาพบกับบำบัดแบบใหม่ด้วยเทคนิค ครอบแก้ว ตามศาสตร์จีนแบบโบราณที่อาจทำให้คุณต้องติดใจและทำให้อาการปวดเมื่อยหายไปในทันที
ครอบแก้ว (Cupping Therapy) คืออะไร
ครอบแก้ว (Cupping Therapy) มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีนเป็นการรักษาบำบัดอาการปวดเมื่อยแบบแพทย์แผนจีนโบราณ โดยการนำถ้วยแก้วแบบเฉพาะมาวางไว้บนผิวหนังพร้อมกับใช้ความร้อนให้แก้วดูดผิวหนังหรือกล้ามเนื้อขึ้น อุปกรณ์ในการบำบัดด้วยวิธีครอบแก้วมีหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่มักทำจากกระจก ไม้ไผ่ เครื่องเคลือบดินเผา และยางทำจากซิลิคอน
ซึ่งการบำบัดด้วยวิธีนี้จะช่วยปรับสมดุลของหยินและหยางตามความเชื่อของชาวจีน ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดคล่องขึ้น บรรเทาอาการปวดเมื่อย ขจัดสารพิษออกจากร่างกายคล้ายกับการทำ กัวซา (Gua Sha) และยังสามารถบ่งบอกถึงโรคต่างๆ ที่คุณมีความเสี่ยงจะเป็นอีกด้วย
ครอบแก้วมีกี่ประเภท
การรักษาด้วยการครอบแก้ว (Cupping Therapy) สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท ดังนี้
การครอบแบบแห้ง ให้เพียงเทคนิคการดูดชั้นผิวหนังเท่านั้น การครอบแบบเปียก อาจเกี่ยวข้องกับการดูดชั้นผิวหนัง และควบคุมการตกเลือดร่วมด้วย
การครอบทั้ง 2 ประเภท แพทย์ที่ทำการบำบัดของคุณจะทำการวิเคราะห์อาการ และเลือกประเภทการครอบที่เหมาะสม ในระหว่างการครอบแก้วนั้นแพทย์จะมีการใส่สารไวไฟ เช่น แอลกอฮอล์ รวมถึงสมุนไพรลงบนสำลีก้อนหรือกระดาษเฉพาะ และทำการจุดไฟ เพื่อนำไปวนภายในแก้วครอบจากนั้นจะวางไว้บนหลังเพื่อทำการดูดเนื้อแต่ละตำแหน่งของเราขึ้น เรียกว่า ระบบสุญญากาศ แพทย์จะทำการทิ้งไว้ประมาณ 3 นาที เพื่อให้ความร้อนจากไฟและสมุนไพรทำการบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพ
ในการดึงแก้วครอบออกอาจมีอาการเจ็บเล็กน้อย และเกิดเป็นรอยสีแดงอมม่วงร่วมด้วย นั่นหมายถึงว่าจุดที่คุณเจ็บ หรือมีสีของรอยที่ชัดเข้มคือจุดที่คุณกำลังมีอาการปวดเมื่อย มีสารพิษในร่างกาย หรือสามารถบ่งบอกถึงโรคที่คุณกำลังเป็นอยู่ได้
หากคุณกำลังกังวลถึงรอยแก้วบริเวณผิว รอยนี้สามารถหายเองได้ภายในระยะเวลา 2 อาทิตย์ ตามพื้นผิวและการพักฝื้นร่างกายแต่ละบุคคล
ประโยชน์หลากหลายของการครอบแก้ว
จากการวิจัยชิ้นหนึ่งในวารสาร BMJ OpenTrusted Source สรุปได้ว่า การครอบแก้วสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยบริเวณหลัง ต้นคอ ทำให้สุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวันนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังค้นพบในรายงานการศึกษาในวารสาร PLoS OneTrusted Source ถึงการครอบแก้วที่สามารถรักษาโรคเริมงูสวัดรวมถึงอาการอื่น ๆ ได้ดังนี้
อาการปวดหัวไมเกรน เวียนหัว กล้ามเนื้อเมื่อยล้า เส้นเลือดขอด โรคไขข้อเสื่อม ระบบไหลเวียนของเลือด โรคโลหิตจาง อาการนอนไม่หลับ ผู้ที่มีอาการเป็นลมอยู่บ่อยครั้ง โรคซึมเศร้า หรือภาวะอารมณ์ผิดปกติ การฟื้นฟูอาการเจ็บปวดจากการเล่นกีฬา ผลข้างเคียงและความเสี่ยงในการบำบัดด้วย ครอบแก้ว
ข้อควรระวังของการทำครอบแก้ว
การครอบแก้วไม่เหมาะกับบุคคลเหล่านี้
- เด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี ควรเข้ารับคำแนะนำเพื่อได้รับการบำบัดด้วยวิธีอื่นที่เหมาะสม
- ผู้สูงอายุ เพราะพื้นผิวจะมีความบอบบางและค่อนข้างอันตราย
- สตรีตั้งครรภ์ หลีกเลี่ยงการครอบแก้วบริเวณหน้าท้องและด้านหลังส่วนล่าง
- ผู้ที่กำลังมีประจำเดือน
- ผู้ที่มีแผลสดบริเวณผิวหนังหรือแผลยังไม่สมานกัน
- ผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุรุนแรง มีความผิดปกติของอวัยวะภายใน
ผลข้างเคียงจากการทำครอบแก้ว
การบำบัดด้วยวิธีนี้มีผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย อาการเหล่านี้สามารถพบได้ทั่วไปและไม่ค่อยรุนแรงมากนัก
- รู้สึกมึนงง หรือเวียนศีรษะในระหว่างการรักษา
- เหงื่อออก หรือคลื่นไส้หลังการรักษา
- ผิวหนังมีรอยช้ำและเลือดคลั่งบนผิวหนัง สามารถจางหายเองได้ตามระยะเวลา