“จุ่มแปรงสีฟันในน้ำ-บ้วนปากหลังแปรง” อาจส่งผลอันตรายต่อฟันอย่างคาดไม่ถึง
“แปรงฟันแห้ง” ไม่จุ่มแปรงในน้ำ ไม่บ้วนปากก่อนแปรงฟัน ส่งผลดีต่อฟันมากกว่า เพราะน้ำอาจลดปริมาณฟลูออไรด์ในยาสีฟัน ที่ช่วยป้องกันฟันผุ น้ำลายในปากเพียงพอที่จะสร้างฟองในยาสีฟัน และไม่ควรบ้วนน้ำหลังแปรงฟันมากเกินไปด้วย
เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยบีบยาสีฟันลงบนแปรงสีฟัน และเปิดก๊อกให้น้ำไหลผ่านแปรงสีฟันเล็กน้อย หรือจุ่มแปรงลงในแก้วน้ำก่อนแปรงฟัน เพราะอยากให้ยาสีฟันสร้างฟองในการแปรงฟันได้มากขึ้น แปรงฟันได้ง่ายกว่า แต่จริง ๆ แล้ววิธีการแปรงฟันเช่นนี้อาจไม่ได้ส่งผลดีต่อฟันของเรามากเท่าที่ควร
ไม่แนะนำให้จุ่มแปรงพร้อมยาสีฟันในน้ำ บ้วนปากหลังแปรงฟันหลายครั้ง
การจุ่มแปรงสีฟันพร้อมยาสีฟันในน้ำ หรือเปิดน้ำก๊อกให้ไหลผ่านแปรงเล็กน้อยก่อนลงมือแปรงฟัน อาจทำให้ปริมาณฟลูออไรด์ในยาสีฟันลดน้อยลง ประสิทธิภาพของฟลูออไรด์ในยาสีฟันที่ควรจะช่วยป้องกันฟันผุก็จะน้อยลงไปด้วย รวมถึงหลังแปรงฟันเสร็จ การบ้วนปากด้วยน้ำหลาย ๆ ครั้งก็ลดปริมาณฟลูออไรด์ที่อยู่บนฟันไปด้วยเช่นกัน
แปรงฟันแห้ง ลดการใช้น้ำให้มากที่สุด ดีต่อฟันมากกว่า
ทันตแพทย์แนะนำให้แปรงฟันด้วยยาสีฟันล้วน ๆ โดยไม่ต้องผ่านน้ำ ระหว่างแปรงฟันในปาก น้ำลายในปากเพียงพอต่อการสร้างฟองยาสีฟันได้ และหลังจากบ้วนยาสีฟันทิ้งแล้ว บ้วนปากให้น้อยครั้งที่สุด เพียงครั้งเดียวได้ยิ่งดี เพื่อรักษาฟลูออไรด์บนฟันไว้ให้ได้มากที่สุด
แปรงฟันให้ถูกวิธี
อย่าลืมว่าการแปรงฟันโดยสีซ้ายขวาไปมา อาจไม่ได้ช่วยให้เศษอาหารออกจากซอกฟันได้ ควรแปรงโดยสะบัดแปรงจากโคนฟันที่ติดกับเหงือกออกไปที่ปลายฟัน และแปรงทั้งด้านนอก และด้านใน ใช้เวลาในการแปรงฟัน 2-3 นาที และอย่าลืมแปรงลิ้น เพื่อลดคราบแบคทีเรียในปาก
ตรวจฟันทุก 6 เดือน
เพื่อสุขภาพปากและฟันที่ดี อย่าลืมพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันทุก ๆ 6 เดือน หากมีคราบหินปูนก็ควรขูดหินปูนออก เพื่อป้องกันฟันผุด้วยเช่นกัน