“โมโนนิวคลิโอซิส” โรคติดต่อผ่านการ “จูบ” ที่วัยรุ่นควรระวัง

“โมโนนิวคลิโอซิส” โรคติดต่อผ่านการ “จูบ” ที่วัยรุ่นควรระวัง

“โมโนนิวคลิโอซิส” โรคติดต่อผ่านการ “จูบ” ที่วัยรุ่นควรระวัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โรคโมโนนิวคลิโอซิส เป็นโรคที่สามารถติดต่อกันได้ผ่านการ “จูบ” กลุ่มเสี่ยงคือวัยรุ่น อาการของโรคเป็นได้ตั้งแต่มีไข้ ปวดหัว อ่อนเพลีย ไปจนถึงมีผื่นขึ้นตามตัว เจ็บคอ เบื่ออาหาร สามารถหายได้เอง 2-3 สัปดาห์ แต่ควรระมัดระวังไม่จูบกับผู้ที่ติดเชื้อ ไม่ใช้ช้อนส้อม แก้วน้ำ และของใช้ส่วนตัวอื่น ๆ ร่วมกับผู้อื่น


สาเหตุของโรคโมโนนิวคลิโอซิส

โรคโมโนนิวคลิโอซิส เกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอ็บสไตบาร์ (Epstein-Barr Virus: EBV) ที่สามารถแพร่กระจายผ่านทางน้ำลาย การไอ หรือการจาม


อาการของโรคโมโนนิวคลิโอซิส

  1. มีไข้

  2. ปวดศีรษะ

  3. อ่อนเพลีย

  4. ไอ หรือจาม

  5. เจ็บคอ

  6. อาจพบผื่นตามร่างกาย เช่น หน้า คอ หน้าอก หลัง

  7. เบื่ออาหาร

  8. เหงื่อออกตอนกลางคืน


วิธีรักษาโรคโมโนนิวคลิโอซิส

โมโนนิวคลิโอซิส สามารถมีอาการที่ดีขึ้น และหายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่หากในรายที่มีอาการหนัก เช่น มีผื่นขึ้นเต็มตัว อ่อนเพลียมาก ๆ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย และเลือกให้ยามารับประทานอย่างเหมาะสม (ยาที่ซื้อกินเองอาจไม่ช่วยรักษาได้ตรงจุด จึงอาจไม่ได้ผล หรือไม่ได้ทำให้อาการดีขึ้น)


วิธีป้องกันโรคโมโนนิวคลิโอซิส

  1. ไม่จูบกับคนที่ติดเชื้อโรคโมโนนิวคลิโอซิส

  2. ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ช้อน ส้อม ตะเกียบ แก้วน้ำ แปรงสีฟัน ผ้าขนหนู ฯลฯ

  3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับละอองน้ำลาย หรือเสมหะของผู้อื่น

  4. รักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายเป็นประจำ และพักผ่อนให้เพียงพอ

  5. หากมีอาการผิดปกติ มีไข้ ไม่สบาย และอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ควรพบแพทย์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook