ทำไมวิ่งแล้ว ไม่ผอม น้ำหนักไม่ยอมลด?

ช่วงนี้เทรนด์วิ่งกำลังมาแรงนะคะ ส่วนใหญ่ที่เลือกวิ่งก็เพราะว่าอยากหุ่นดี อยากลดน้ำหนัก และบางส่วนก็เลือกที่จะวิ่งเพื่อให้ได้มาซึ่งสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอยู่สม่ำเสมอ แต่สาวๆ หลายคนแอบโอดครวญว่า ทำไมวิ่งแล้วน้ำหนักไม่ลด รูปร่างก็ไม่ยอมผอมลง อาจเป็นเพราะคุณกำลังวิ่งไม่ถูกวิธีนั่นเอง

Sanook! Health จึงมีคำแนะนำดีๆ สำหรับนักวิ่งที่อยากวิ่งเพื่อการลดน้ำหนักมาฝากกันค่ะ

 

1. วอร์มร่างกายก่อนวิ่ง

เพื่อลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ อย่าลืมวอร์มร่างกายเบาๆ ก่อนลงมือวิ่ง อาจจะทำท่ากายบริหารง่ายๆ เช่น หมุนแขน หมุนข้อเท้า กางแขนสลับแตะปลายเท้า และอื่นๆ ราว 5-10 นาที

2. การลงส้นเท้า

เวลาวิ่ง ส้นเท้าต้องลงพื้นก่อนเสมอ แล้วตามด้วยฝ่าเท้า เมื่อปลายเท้าหมุนลงมาแตะพื้นก็เป็นจังหวะที่ส้นเท้าเปิดขึ้น ปลายเท้าก็เริ่มเหมือนตะกุยดินเบาๆ เพื่อถีบตัว สปริงตัวให้ก้าวต่อไป

3. ระหว่างก้าว

เมื่อเท้าเริ่มสัมผัสพื้นอีกครั้ง เข่าควรจะงอนิดๆ ในขณะที่เท้าหน้าเหยียดไปข้างหน้า เท้าหลังก็ควรจะเหวี่ยงไปข้างหลังให้เกิดแรงสมดุลด้วย แต่ละก้าววิ่งควรจะพยายามให้เท้าสัมผัสพื้นเบาๆ ไม่ควรกระแทกหนัก เพื่อไม่ให้เท้าเกิดอาการบาดเจ็บนั่นเอง

4. ท่าทางในการวิ่ง

ควรวิ่งในท่าทางที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด หน้าตรง ตามองตรงไปข้างหน้า พยายามให้หลังตรง ไม่โน้มตัวไปข้างหน้า หรือแอ่นหลังขณะวิ่ง

5. วิธีแกว่งแขน

ใช้หัวไหล่ในการแกว่งแขน จะช่วยทรงตัวขณะวิ่ง พยายามอย่าให้ข้อศอกงอเข้าแคบกว่า 90 องศา หรือมุมฉาก กำนิ้วมือหลวมๆ ไม่ต้องเกร็งแขนหรือนิ้วมือ หลังจากงอแขนวิ่งเล็กน้อยสักพัก อาจจะสลับปล่อยแขนตรงบ้างก็ได้ เพื่อให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายได้เต็มที่

6. การหายใจ

การหายใจควรเป็นไปตามธรรมชาติ พยายามหายใจด้วยท้อง โดยหายใจเข้าจนปอดขยาย แล้วปล่อยลมออกมาโดยการแขม่วท้อง และหายใจเข้าทางจมูก หายใจออกทางจมูกและปาก

7. ระยะเวลาในการวิ่ง

ควรวิ่งในระยะความเร็วที่ทำให้ร่างกายต้องหายใจแรง แต่อย่าเหนื่อยเกินไปจนต้องหอบ หรือหน้ามืด วิ่งไป 4-5 นาทีควรมีเหงื่อออกมา แต่ก็ควรเป็นความเร็วที่ยังสามารถวิ่งต่อไปได้อีกมากกว่า 10 นาทีขึ้นไป โดยไม่จำเป็นต้องวิ่งด้วยความเร็วระยะเดียวเสมอไป อาจจะช้าบ้างเร็วบ้างสลับกัน หากวิ่งติดต่อกันนานๆ ไม่ไหว ให้เปลี่ยนเป็นวิ่งสลับเดินยาวๆ พอหายเหนื่อยก็กลับมาวิ่งใหม่ วิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่เริ่มวิ่งออกกำลังกายใหม่ๆ

นอกจากนี้ควรวิ่งให้เป็นประจำสม่ำเสมอ อาจจะไม่ต้องทุกวัน แต่อย่างน้อย 3 วันใน 1 สัปดาห์

8. คูลดาวน์ก่อนพัก

ควรใช้เวลาคูลดาวน์ หรือปรับความเร็วในการวิ่ง เป็นเดินเร็วๆ และค่อยๆ ลดความเร็วลงจนเป็นเดินช้าๆ สัก 5 นาที เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ไม่ให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บจากการวิ่ง

9. รับประทานอาหารหลังวิ่ง

อาจจะดูขัดกันกับความตั้งใจ ว่าจะลดน้ำหนัก ทำไมให้ทานอาหาร แต่การทานอาหารหลังวิ่ง จะช่วยให้ร่างกายสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาได้ หากอยากรูปร่างดี เฟิร์มกระชับ ก็ต้องทานอาหารหลังวิ่งค่ะ แต่ควรจะเลือกอาหารประเภทโปรตีนดีๆ อาจจะเป็นเนื้อสัตว์ไร้ไขมัน หรือโยเกิร์ต นมถั่วเหลืองก็ได้ ตามด้วยอาหารที่มีกากใย เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชต่างๆ เป็นต้น

เคล็ดลับง่ายๆ เพียงเท่านี้ ก็ทำให้คุณมีรูปร่างที่ดี น้ำหนักที่ลดลงอย่างที่ตั้งใจ ด้วยวิธีที่ดีต่อสุขภาพด้วยค่ะ นอกจากเราจะสวยหล่อขึ้นแล้ว สุขภาพยังแข็งแรงขึ้นจากการวิ่งออกกำลังกายด้วยนะ ที่สำคัญระหว่างวิ่ง อาจได้ผูกมิตรกับคนข้างๆ ด้วย โบนัสสามต่อเลยเห็นไหมล่ะ