โควิด-19: Emergency Survival Kit คืออะไร และควรมีอะไรบ้าง หากไทยเข้าสู่ระยะ 3
แม้ว่าสาธารณสุขของไทยเราจะทำงานได้ค่อนข้างดีในการควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนยังคงมีความเห็นว่ามีความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยอาจเข้าสู่การระบาดของเชื้อไวรัสในระยะ 3 ระยะนี้อันตรายแค่ไหน แล้วต้องเตรียมตัวรับมือกันอย่างไร Sanook Health หาคำตอบมาให้เรียบร้อยแล้ว
การแพร่ระบาดระยะ 3 หมายความว่าอย่างไร?
การแพร่ระบาดของโรคติดต่อแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ดังนี้
ระยะ 1 หมายถึง การพบผู้ป่วยติดเชื้อจากต่างประเทศเท่านั้น ผู้ป่วยเดินทางจากต่างประเทศเข้าสู่ประเทศไทยโดยติดเชื้อมาจากต่างประเทศ ยังไม่พบการติดต่อของเชื้อจากคนในประเทศ เช่น ในระยะแรกของไทยในเดือนมกราคม 2563 ที่พบเพียงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเท่านั้น
ระยะ 2 หมายถึง การพบผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้ออกไปติดเชื้อจากต่างประเทศ โดยเป็นการติดเชื้อต่อมาจากผู้ที่ติดเชื้อจากต่างประเทศมาอีกทอดหนึ่ง เช่น การพบผู้ติดเชื้อที่ทำงาน หรืออาศัยใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง อย่าง คนขับรถแท็กซี่ที่รับผู้โดยสารต่างชาติที่ติดเชื้อ และ ญาติพี่น้องที่อาศัยอยู่ร่วมบ้านเดียวกันกับผู้ที่เพิ่งกลับมาจากการท่องเที่ยวในประเทศเสี่ยง เป็นต้น
ระยะ 3 หมายถึง การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอย่างรวดเร็วจากคนในประเทศด้วยกันเองโดยที่ไม่มีประวัติเดินทางไปในประเทศกลุ่มเสี่ยง โดยเป็นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจากคนที่ติดเชื้อส่งต่อไปเรื่อยๆ จากการใช้ชีวิตร่วมกับคนหมู่มาก (จึงเป็นสาเหตุที่มีการรณรงค์ให้กักตัวเมื่อทราบว่าตัวเองเสี่ยงต่อการติดเชื้อ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดสู่คนหมู่มากทั้งโดยรู้ตัว และไม่รู้ตัวนั่นเอง)
หากประเทศไทยเข้าสู่ระยะ 3 ของการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 จะเป็นอย่างไร?
หากประเทศไทยเข้าสู่ระยะ 3 ต้องเน้นไปที่การรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อแล้ว ไปพร้อมๆ กับการชะลอตัวเลขผู้ติดเชื้อให้ได้มาก และเร็วที่สุด ในทางของรัฐบาลต้องเตรียมความพร้อมทั้งในเรื่องของสถานพยาบาล โรงพยาบาลต่างๆ ต้องเพียงพอในการรับผู้ป่วยเข้ามารักษา อุปกรณ์ และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนต้องพร้อมทั้งจิตใจ และร่างกาย ต้องให้การปกป้อง และป้องกันทุกคนไม่ให้ติดเชื้อ มิฉะนั้นจะเสี่ยงส่งต่อเชื้อไวรัสให้ผู้ป่วย และคนทั่วไปต่อได้อีก และยังอาจมีมาตรการใดๆ เพิ่มเติมในอนาคต
ในส่วนของประชาชนอย่างเรา หากถึงช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสจนทำให้การเดินทางออกนอกบ้านเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของการติดโรค เหมือนอย่างที่ในประเทศจีนสั่งปิดเมือง ไม่ให้คนในออก ไม่ให้คนนอกเข้า และยังสั่งงดการเดินทางออกนอกบ้านอย่างจริงจังแล้ว การสำรองอาหาร และข้างของเครื่องใช้จำเป็นต่างๆ จึงมีความสำคัญอย่างมาก เราอาจเรียกว่าต้องเตรียม Emergency Survival Kit เอาไว้เผื่อยามฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
Emergency Survival Kit คืออะไร มีอะไรบ้าง?
Emergency Survival Kit คืออาหาร และข้างของเครื่องใช้ต่างๆ ที่จำเป็นยามฉุกเฉินเพื่อการดำรงชีพในระยะเวลาหนึ่ง สิ่งที่ต้องมีเตรียมเอาไว้หากจำเป็นต้องกักกันตัวเองอยู่แต่ในบ้าน ได้แก่
- น้ำดื่ม เตรียมให้มั่นใจว่ามีเพียงพอ อาจเตรียมเผื่อเป็นขวดๆ หากที่บ้านมีเครื่องกรองน้ำอยู่แล้ว
- ยาสามัญประจำบ้านต่างๆ ควรมีเตรียมไว้ให้พร้อมเผื่อใช้ในระยะ 2-3 เดือน
- ยาแก้ปวด ลดไข้ เช่น พาราเซตามอล แอสไพริน ยาแก้ปวดท้องประจำเดือน
- ยาเม็ดลดกรด อะลูมินา-แมกนีเซีย-ไซเมธิโคน
- ยาธาตุน้ำแดง ลดอาการท้องอืด
- ผงน้ำตาลเกลือแร่ แก้ท้องเสีย
- ผงถ่านรักษาอาการท้องเสีย
- ยาคลอร์เฟนิรามีน แก้แพ้ ลดน้ำมูก
- ยาแก้ไอ
- ยาดมแก้วิงเวียน
- ยาหม่อง
- ยาโพวิโดน-ไอโอดีน ใส่แผลสด พร้อมอุปกรณ์ทำแผล เช่น พลาสเตอร์ สำลี คอตตอนบัด ผ้าก๊อซ ผ้ายืดพันเคล็ด เป็นต้น
- น้ำเกลือล้างแผล
- คาลาไมน์โลชั่น ยาทาแก้ผดผื่นคัน
- ปรอท หรือที่วัดไข้
เป็นต้น - ข้าวสารอาหารแห้งต่างๆ ที่สามารถเก็บเอาไว้ได้นาน เช่น ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เนื้อสัตว์แปรรูปที่เก็บได้นาน ผักอบแห้งที่นำมาประกอบอาหารได้ เช่น สาหร่าย เห็ดหอมแห้ง โปรตีนเกษตร อาหารแช่แข็ง ผักและผลไม้แช่แข็ง นมพาสเจอร์ไรซ์ หอม กระเทียม ไข่ไก่ ฯลฯ
- ถ่านไฟฉาย สำหรับใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ในบ้าน
- ไฟฉาย หรือเทียนพร้อมไม้ขีดไฟ หรือไฟแช็ก ในกรณีที่เกิดไฟดับ
- เครื่องอุปโภคบริโภค เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน แชมพู สบู่ น้ำยาทำความสะอาดต่างๆ ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน กระดาษทิชชู่ ผ้าอนามัย ฯลฯ
- เตรียมเบอร์โทรฉุกเฉินเอาไว้ในโทรศัพท์ อาจบันทึกเบอร์โทรฉุกเฉินกด 1 กด 2 สำหรับคนในครอบครัวหรือคนสนิทเอาไว้หากเกิดเหตุฉุกเฉินใดๆ รวมถึงเบอร์โทรเรียกรถพยาบาลจากโรงพยาบาลใกล้บ้าน และเบอร์สายด่วน 1669 หากเกิดอุบัติเหตุ
ปฏิบัติตัวอย่างไร เมื่อถูกกักตัวอยู่แต่ในบ้าน
นอกจากการเตรียมอาหาร ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ แล้ว ยังต้องเตรียมร่างกายให้แข็งแรง มีภูมิคุ้มกันโรคที่ดีอยู่เสมอ เพื่อต่อสู้ และปกป้องสุขภาพจากการติดเชื้อไวรัสด้วย
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สำหรับคนที่อยู่ในคอนโด หรือหอพักที่มีพื้นที่จำกัด ลองทำกายบริหารง่ายๆ เช่น กายบริหารกับเก้าอี้ กำแพง ท่าโยคะง่ายๆ กระโดดตบอยู่กับที่ ก็พอช่วยได้
- อย่าลืมดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- งดสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์
- เปิดหน้าต่างรับแสงแดดยามเช้าบ้าง เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินดีจากแสงแดด
- อย่าปล่อยให้ตัวเองนั่งเฉยๆ ควรลุกขึ้นมาทำกิจกรรมต่างๆ เรื่อยๆ เช่น ทำความสะอาด ซักผ้า ขัดกระจก ฯลฯ เป็นต้น
- ลดความเบื่อ ความเครียด ด้วยการทำกิจกรรมที่ชอบ เช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ฯลฯ
- อย่าลืมมีปฏิสัมพันธ์ คุยกับผู้อื่นเหมือนเคย