ประโยชน์ของ "ผงโกโก้" เคล็ดลับเสริมสุขภาพที่คุณไม่ควรพลาด
ช็อกโกแลตมีประโยชน์ต่อสุขภาพ นั่นเป็นข้อเท็จจริงที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่ถ้าจะมองลึกไปถึงวัตถุดิบหลักที่ใช้ในการทำช็อกโกแลตอย่างโกโก้ล่ะ พวกเรารู้อะไรเกี่ยวกับ โกโก้ บ้าง โดยเฉพาะ ผงโกโก้ วัตถุดิบสำคัญที่สามารถนำไปแปรรูปเป็นอาหารได้หลายชนิด ถ้าอยากรู้ว่าผงโกโก้จะดีต่อสุขภาพอย่างไรล่ะก็ ตามไปดูกันเลยในบทความนี้จาก Hello คุณหมอ
สารอาหารใน ผงโกโก้
โกโก้ ทำมาจาก เมล็ดของต้นกาเกา (Cacao) ซึ่งเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดจากแถบอเมริกาใต้ เป็นวัตถุดิบสำคัญสำหรับทำช็อกโกแลต เมนูของหวานอันเลื่องชื่อที่ได้รับความนิยมไปทั่วทั้งโลก โกโก้ที่เป็นเมล็ด จำเป็นต้องนำไปผ่านกระบวนการแปรรูปออกมาเพื่อให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบ หนึ่งในนั้นคือ ผงโกโก้ โดยผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ จะให้
โปรตีน 1 กรัม ไขมันทั้งหมด 13.7 กรัม คาร์โบไฮเดรต 3 กรัม ไฟเบอร์ 3 กรัม ปริมาณแป้งสุทธิ 1 กรัม และอุดมไปด้วยสารอาหารที่ประโยชน์ต่อร่างกาย ได้แก่ แมกนีเซียม โพแทสเซียม แมงกานีส ทองแดง ประโยชน์ของ ผงโกโก้
หากใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของ โกโก้ ก็คงจะต้องรู้กันดีอยู่แล้วว่าเมนู โกโก้ร้อน และ โกโก้เย็น นั้น อร่อยจนอดใจไม่ไหวมากแค่ไหว แต่นอกเหนือจากความอร่อยจนลืมไม่ลงนั้น โกโก้ ยังให้ประโยชน์มากกว่านั้นอีก
- ช่วยต้านมะเร็ง
ผงโกโก้ ช่วยในการต้านมะเร็งเพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูงกว่าอาหารทั่วๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นชาเขียว ชาดำ หรือไวน์แดง สารต้านอนุมูลอิสระสำคัญใน โกโก้ ก็คือ สารโพลีฟีนอลส์ (Polyphenols) สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) สารไนอาซีน (Niacin) ซึ่งสารอาหารสำคัญเหล่านี้ ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่าช่วยในการ ปกป้องเซลล์จากการถูกทำร้ายโดยแบคทีเรีย ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ป้องกันไม่ให้เซลล์มะเร็งที่มีอยู่แล้วมีการแพร่กระจาย ช่วยกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งตาย
- ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ
สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ในผงโกโก้ เป็นตัวช่วยสำคัญที่ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ เพราะมีสรรพคุณในการป้องกันการอุดตันในเลือด และลดการปิดกั้นการไหลเวียนของหลอดเลือดซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ นอกจากนี้ในโกโก้ยังมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ไขมันอิ่มตัว และกรดโอเลอิก (Oleic acid) ที่ช่วยให้สุขภาพหัวใจแข็งแรง
- ลดความดันโลหิต
สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ยังคงเป็นพระเอกใน โกโก้ และผงโกโก้ มีผลการศึกษาพบว่าผู้ที่รับประทานโกโก้เป็นประจำ จะมีการขยายตัวของหลอดเลือดซึ่งช่วยให้ระบบเลือดสามารถไหลเวียนได้ดี และยังช่วยลดความเครียดที่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของการมีความดันโลหิตสูงอีกด้วย
- ลดภาวะดื้อต่ออินซูลิน
สารโพลีฟีนอลส์ (Polyphenols) ในโกโก้และผงโกโก้ ช่วยชะลอกระบวนการย่อยอาหาร ช่วยให้สามารถดูดซึมคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลได้ดี และสารโพลิฟินอลส์ (Polyphenols) ยังมีส่วนช่วยในการสลายน้ำตาลกลูโคส เพื่อการรักษาระดับน้ำตาลในเลือดมีความสมดุล และเพิ่มความต้านทานต่ออินซูลินได้
- ป้องกันภาวะสมองเสื่อม
สารโพลีฟีนอลส์ (Polyphenols) และ สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ใน โกโก้ ได้รับการค้นพบว่ามีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานรของสมอง ช่วยให้เลือดไหวเวียนไปเลี้ยงสมองได้ดี และยังช่วยป้องกันโรคความเสื่อมของระบบประสาท (Neurodegenerative) เช่น ภาวะสมองเสื่อม (Dementia) โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer's Disease)
- ช่วยให้อารมณ์ดี ลดซึมเศร้า
เมื่อใดก็ตามที่รู้สึกอ่อนล้า หดหู่ เศร้าโศก ให้โกโก้อยู่เป็นเพื่อนคู่ใจของคุณสิ สารอาหารในโกโก้หรือผงโกโก้ รวมถึงช็อกโกแลตที่ทำมาจาก โกโก้ ก็มีส่วนช่วยลดอาการเซื่องซึม เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า
- ช่วยในการลดน้ำหนัก
คุณเป็นอีกคนหนึ่งที่กำลังมองหาตัวช่วยในการลดน้ำหนักอยู่รึเปล่า ถ้าใช่ล่ะก็ ไม่ควรมองข้ามเคล็ดลับดีๆ อย่างผงโกโก้ เพราะใน โกโก้ จะให้คาร์โบไฮเดรตต่ำ กินแล้วทำให้รู้สึกอิ่มได้นานขึ้น ป้องกันการสะสมไขมันและยังเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้ดีอีกด้วย โดยมีผลการวิจัยว่าผู้ที่รับประทานโกโก้ หรือรับประทานอาหารที่มีโกโก้เป็นส่วนประกอบ เช่น ช็อกโกแลต สามารถลดน้ำหนักได้เร็วกว่าผู้ที่ไม่กินช็อกโกแลตเลย แต่ขอแนะนำให้เป็นดาร์กช็อกโกแลตเท่านั้นนะ
- ช่วยสร้างสมดุลของเกลือแร่ในเลือด
ปัญหาเกลือแร่ในเลือดไม่สมดุลนั้น เนื่องมาจากร่างกายมีสารอาหารประเภท โพแทสเซียม แมกนีเซียม และโซเดียมไม่เพียงพอ ซึ่งการรับประทานโกโก้ จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารดังกล่าวได้อย่างครบถ้วน
- โกโก้ดีต่อสุขภาพฟัน
การรับประทาน โกโก้ เป็นประจำ มีส่วนช่วยให้สุขภาพช่องปากแข็งแรงได้ เพราะในโกโก้นั้นมีสารที่ชื่อว่า ทีโอโบรมีน (Theobromine) ช่วยในการต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรีย และทำให้ฟันแข็งแรง แต่ข้อสำคัญคือไม่ควรเติมน้ำตาลลงไปในโกโก้
- ผลข้างเคียงที่ควรระวัง
แม้ว่า โกโก้ จะเป็นตัวช่วยในการมีสุขภาพที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อแนะนำและข้อควรระวังบางประการสำหรับการรับประทานโกโก้ ดังนี้
- ผู้ที่มีอาการวิตกกังวล ควรระวังการกินโกโก้ เนื่องจากคาเฟอีนในโกโก้ อาจส่งผลให้มีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ไม่ควรรับประทานโกโก้ในปริมาณมาก เนื่องจากอาจส่งผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
- ผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน การรับประทานผงโกโก้ อาจทำให้อาการที่เป็นอยู่แย่ลงกว่าเดิม
- ผู้ที่เป็นต้อหิน ควรระมัดระวังโกโก้ เนื่องจากสารคาเฟอีนในโกโก้จะมีผลต่อความดันที่ดวงตา
- ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง หากรับประทานโกโก้อาจทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ได้
การรับประทานโกโก้แม้จะไม่ได้ส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยตรง แต่ผู้ที่มีอาการทางสุขภาพอยู่แต่เดิมแล้ว ควรขอคำแนะนำจากคุณหมอและผู้เชี่ยวชาญว่าสามารถรับประทานได้หรือไม่ และปริมาณเท่าใดจึงจะไม่ส่งผลต่อสุขภาพ ที่สำคัญคือควรรู้จักงดหวานในการกินผงโกโก้เพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพสูงสุด