ไวรัสโคโรนา: ตรวจหา “โควิด-19” ทำไมถึงแพง? มีตรวจฟรีจริงไหม?
เมื่อเรารู้ตัวว่าเราอาจกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 หรือโควิด-19 หลายคนจึงอยากไปตรวจร่างกายให้แน่ใจว่าติดเชื้อโควิด-19 จริงหรือไม่ แต่ก็ต้องพบกับปัญหาว่าค่าตรวจหาเชื้อไวรัสไม่เป็นมิตรกับกระเป๋าเงินเอาเสียเลย จนหลายคนออกมาเรียกร้องว่าค่าตรวจควรจะฟรีทุกคน เพื่อให้ทุกคนได้ตรวจร่างกายป้องกันโรคกันได้หมด
ปัญหานี้ หมอมินบานเย็น จากเฟซบุคเพจ เข็นเด็กขึ้นภูเขา และเฟซบุคเพจ เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล ให้ข้อมูลเอาไว้ ดังนี้
ทำไมค่าตรวจโควิด-19 ถึงมีราคาแพง?
ในปัจจุบันค่าตรวจหาเชื้อไวรัสในโรงพยาบาลรัฐจะอยู่ที่ราวๆ 2,000-3,000 บาท แต่หากเป็นโรงพยาบาลเอกชนอาจมีราคาสูงขึ้น เนื่องจากอาจมีค่าอุปกรณ์ เช่น ชุดป้องกันการติดเชื้อ (ที่มีราคาสูง) และอื่นๆ รวมถึงต้องคำนวณถึงต้นทุนของโรงพยาบาลแต่ละแห่งด้วย
ทำไมถึงตรวจฟรีทุกคนไม่ได้?
รัฐบาลอนุญาตให้มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ฟรีในโรงพยาบาลรัฐที่มีอุปกรณ์พร้อมตรวจหลายแห่ง (เช่น โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลศิริราช สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กรมควบคุมโรค โทร 1422) หากผู้ป่วยเข้าข่ายผู้เสี่ยงติดเชื้อตามเกณฑ์ที่กำหนด ได้แก่
- มีไข้
- ไอ
- เหนื่อยหอบ
- เจ็บคอ
- มีน้ำมูก
- เพิ่งกลับมาจากประเทศเสี่ยง
- ใกล้ชิดกับชาวต่างชาติที่เสี่ยง
- คลุกคลีกับผู้ติดเชื้อ
หากประชาชนไปตรวจกันมากๆ โดยที่ไม่มีข้อบ่งชี้ชัดเจน ชุดตรวจอาจไม่เหลือพอไปตรวจคนที่จำเป็นจริงๆ ตอนระบาดเข้าระดับ 3 ในอนาคตได้
รู้ได้อย่างไรว่าเราเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน?
กรมควบคุมโรค ให้ข้อมูลเอาไว้ ดังนี้
เสี่ยงน้อยมาก > ไม่มีอาการไข้หวัดใดๆ ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศในกลุ่มเสี่ยง ไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง = ไม่ต้องไปโรงพยาบาล ดูแลสุขภาพให้ดี
เสี่ยงเล็กน้อย > มีอาการคล้ายไข้หวัด ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศในกลุ่มเสี่ยง ไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง = เฝ้าสังเกตอาการของตัวเอง หากไม่ดีขึ้นใน 48 ชั่วโมง ควรพบแพทย์
มีความเสี่ยง > ไม่มีอาการไข้หวัดใดๆ มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศในกลุ่มเสี่ยง เคยใกล้ชิดกับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง = กักตัวเองอยู่ในบ้าน 14 วัน ไม่ใช้ของร่วมกับคนอื่น สวมหน้ากากอนามัย หากเริ่มมีอาการคล้ายเป็นไข้หวัด ควรพบแพทย์
มีความเสี่ยงสูงมาก > มีอาการคล้ายไข้หวัด มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศในกลุ่มเสี่ยง เคยใกล้ชิดกับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง = หลีกเลี่ยงการใกล้ชิด-ใช้ของร่วมกับคนอื่น สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปโรงพยาบาลทันที
ผลตรวจออกมาเป็นลบ (negative) อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ
แม้ว่าผลตรวจจะยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-18 แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังต่อ เพราะแพทย์กังวลว่าพอทราบว่าไม่ติดเชื้อแล้วอาจจะไม่ระมัดระวังตัวเองให้ดีเท่าที่ควรจะเป็น
ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ติดเชื้อหรือไม่ สิ่งที่ควรทำในตอนนี้คือ
- ล้างมือบ่อยๆ ระหว่างวัน ลดการสัมผัสกับสิ่งของสาธารณะที่มีผู้สัมผัสจำนวนมากให้ได้มากที่สุด เช่น ที่จับบนรถไฟฟ้า ปุ่มกดลิฟท์ ที่เปิดประตู หรือหากจำเป็นต้องจับ ต้องล้างมือด้วยเจลล้างมือ แอลกอฮอล์ หรือสบู่ให้เร็วที่สุด
- ล้างมือก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง
- ลดการใช้มือสัมผัสใบหน้า และอวัยวะต่างๆ ระหว่างวัน
- หลีกเลี่ยงการพบปะ และเข้าร่วมกิจกรรมกับคนหมู่มาก
- งดการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น จาน ชาม ช้อน ส้อม ตะเกียบ แก้วน้ำ ผ้าขนหนู เป็นต้น
- สวมหน้ากากอนามัยหากมีอาการไข้หวัด ไอ จาม เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสไปสู่คนอื่น
- พยายามรับประทานอาหารจานเดียวมากกว่าการตักกับข้าวร่วมกับคนอื่น
- รักษาตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อรักษาภูมิคุ้มกันโรคของตัวเองให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอยู่ตลอด เช่น รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายเป็นประจำ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ