ไวรัสโคโรนา: แพทย์เผย “คนอ้วนมาก” เสี่ยง “โควิด-19”

ไวรัสโคโรนา: แพทย์เผย “คนอ้วนมาก” เสี่ยง “โควิด-19”

ไวรัสโคโรนา: แพทย์เผย “คนอ้วนมาก” เสี่ยง “โควิด-19”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายแพทย์ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ และ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย และนายกสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยถึงกลุ่มเสี่ยงที่อาจติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่า “คนอ้วน” จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสด้วย นอกจากผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างที่ทราบกันไปก่อนหน้านี้แล้ว

คนอ้วน มีความหนาของชั้นไขมันที่หน้าอก จะทำให้กดการทำงานของปอด เมื่อปอดทำงานได้น้อยลง ประสิทธิภาพในการทำงานก็จะน้อยลง ดังนั้นหากติดเชื้อจะทำให้ปอดยิ่งแย่ลง


สรุปแล้ว กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ได้แก่

  • เด็กเล็ก เสี่ยงติดเชื้อจากผู้ใหญ่ ผู้ปกครองจากการอุ้ม และเลี้ยงดู (แต่อาจไม่พบอาการรุนแรงเท่าผู้สูงอายุ)

  • ผู้สูงอายุ

  • คนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง โรคตับ โรคไต ฯลฯ

  • คนที่ภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือกินยากดภูมิต้านทานโรคอยู่

  • คนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานมาก (คนอ้วนมาก)

  • ผู้ที่เดินทางไปในประเทศเสี่ยงติดเชื้อ เช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อิตาลี อิหร่าน ฯลฯ

  • ผู้ที่ต้องทำงาน หรือรักษาผู้ป่วย ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 อย่างใกล้ชิด

  • ผู้ที่ทำอาชีพที่ต้องพบปะชาวต่างชาติจำนวนมาก เช่น คนขับแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล ลูกเรือสายการบินต่าง ๆ เป็นต้น


ส่วนคนที่อยู่ในกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี ก็ยังต้องระมัดระวังตนเองให้ดี หากไม่ติดเชื้อเอง ก็อย่าแพร่เชื้อไวรัสให้คนอื่นด้วยการสัมผัสสิ่งของสาธารณะแล้วไปหยิบจับสิ่งของภายในบ้านอีกต่อหนึ่ง

นอกจากนี้ต้องพยายามไม่สัมผัสถูกต้องตัวผู้อื่น ถ้าเป็นได้พยายามให้อยู่ห่างกันแต่ละคนราว 1 เมตร ไม่ใช้สิ่งของทุกชนิดร่วมกับผู้อื่น และหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด และมีระบบระบายอากาศที่ไม่ดี

ใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อมีอาการไอ จาม หากไม่มีธุระจำเป็น ควรหลีกเลี่ยงการไปใช้บริการที่โรงพยาบาลในช่วงนี้ นอกจากเพิ่มความเสี่ยงการรับเชื้อของตัวเองแล้ว จะทำให้ระบบการรับมือเชื้อโควิดของโรงพยาบาลทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook