จริงหรือไม่? กินอาหารร้อน อาจทำให้เป็นมะเร็งหลอดอาหาร
เคยได้ยินกันไหมคะว่า หากทานอาหารที่ร้อนจัดมากๆ อาจทำให้เป็นมะเร็งหลอดอาหาร หรือบางครั้งอาจจะเป็นมะเร็งที่ลิ้น ที่กระเพาะ หรือลำไส้ เนื่องมาจากความร้อนของอาหารที่ทานอาจทำให้เนื้อเยื่อถูกทำลาย เป็นบาดแผล และหากเป็นแผลบ่อยๆ เลยอาจทำให้เป็นมะเร็งได้ เรื่องนี้จริงเท็จอย่างไร Sanook! Health มีคำตอบค่ะ
มะเร็งหลอดอาหาร เกิดขึ้นได้อย่างไร?
คิดว่าหากพูดถึงโรคมะเร็ง ทุกคนก็คงทราบกันดีว่ามันเป็นความผิดปกติของร่างกาย ที่จู่ๆ ก็เป็นขึ้นมาเอง อาจจะไม่ได้มีสาเหตุจากสิ่งใดแน่ชัด เพียงแต่เราจะมีพฤติกรรมบางอย่างที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้มากขึ้น (อ่าน “พฤติกรรมเสี่ยงมะเร็ง” ที่นี่) เพราะฉะนั้นสาเหตุมาได้จากหลากหลายปัจจัยค่ะ
ปัจจัยเสี่ยงต่อโรคมะเร็งหลอดอาหาร
- ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่
- บริโภคอาหารบางชนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน เช่น อาหารที่มีสารไนโตรซามีน อย่างอาหารประเภทเนื้อ อาหารที่ใส่สารกันบูด อาหารประเภทย่าง หรือเครื่องปรุงรสอย่างพริก และพริกไทย
- เป็นผู้ป่วยโรคกรดไหลย้อนเรื้อรัง ทำให้เยื่อบุภายในหลอดอาหารเกิดอาการบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เซลล์ผิดปกติจนเกิดเป็นมะเร็งได้
- ติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิดในหลอดอาหาร
- เกิดการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุหลอดอาหารอย่างรุนแรง จากการกระทำ เช่น กลืนน้ำยาล้างห้องน้ำ กลืนน้ำกรด น้ำด่าง
- รับประทานอาหารที่มีผัก ผลไม้ และแร่ธาตุน้อย
- อยู่ในภาวะอ้วน
และอื่นๆ
อาการของมะเร็งหลอดเลือดอาหาร
1. เริ่มทานอาหารแข็งแล้วรู้สึกฝืดคอ กลืนไม่ค่อยลง เช่น ไก่ย่าง หมูทอด ผลไม้ต่างๆ
2. เริ่มรู้สึกลำบากในการกลืนอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารแข็ง หรือเหลว
3. อาจจะกลืนอะไรไม่ค่อยลง จนทำให้ต้องขย้อน หรืออาเจียนออกมา
4. ทานอะไรไม่ลง น้ำหนักเริ่มลด ร่างกายซูบผอม อ่อนเพลีย เพราะขาดอาหาร
5. อาจมีอาการข้างเคียงเพิ่มเติม เช่น ท้องอืด อาหารไม่ย่อย ปวดหัว แน่นหน้าอก คลื่นไส้ ไอ หรือเจ็บบริเวณกระดูกหน้าอก หรือในลำคอ เป็นต้น
ดังนั้น การรับประทานของร้อน อาจจะไม่ถึงกับทำให้หลอดอาหารบาดเจ็บจนเป็นแผล แต่อย่างไรก็ตามหากอาหารร้อนเกินไป อาจทำให้เนื้อเยื่อบริเวณปากบาดเจ็บ จนเป็นแผลได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น ทางที่ดีที่สุดก็ควรจะรับประทานอาหารที่มีความร้อนเหมาะสม ไม่ลวกปาก ลวกลิ้นจนพองกันบ่อยๆ ดีกว่าค่ะ