ขาประจำฟิตเนสพึงรู้! สบตาอย่ามองต่ำ หนึ่งในมารยาทที่ควรทำในล็อกเกอร์ รูม
คลุกวงใน
พิศณุ นิลกลัด
สบตาอย่ามองต่ำ หนึ่งในมารยาทที่ควรทำในล็อกเกอร์ รูม
มติชนสุดสัปดาห์ 11-17 ธันวาคม 2558
อีกไม่กี่วันก็จะถึงปีใหม่...
หนึ่งในปณิธานปีใหม่ที่หลายคนตั้งไว้คือการเข้าฟิตเนสออกกำลัง เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับสุขภาพ หรือเปลี่ยนรูปร่างจากการเป็นคนอวบระยะสุดท้ายให้กลายเป็นคนมีรูปร่างทั้งฟิตและเฟิร์ม
ผมจึงนำเรื่องที่ฝรั่งเขาเขียนแนะนำสำหรับมือใหม่ที่จะเข้าฟิตเนสออกกำลังมาให้ได้ทราบกัน เพื่อจะได้เข้าฟิตเนสอย่างมั่นใจ มีความสุข ไม่สร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้กับผู้ใช้ล็อกเกอร์ รูม คนอื่น
มารยาทการใช้ล็อกเกอร์ รูม ในฟิตเนสที่ควรทราบมีดังต่อไปนี้ครับ
1.ไม่ควรใช้เวลาอยู่ในห้องล็อกเกอร์ รูม นานเกินไป
ห้องล็อกเกอร์ รูม เป็นเหมือนสวรรค์สำหรับหลายๆ คน เพราะในห้องจะมีอุปกรณ์พร้อมสรรพสำหรับการอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่คนส่วนใหญ่มักใช้เวลาอยู่ในห้องล็อกเกอร์ รูม นานเกินไปเพื่อทำทุกอย่างราวกับว่าอยู่ในคอนโดฯ ของตัวเอง
ดังนั้น หากไม่มีความจำเป็นต้องออกไปทำงานหรือมีนัดต่อหลังออกกำลังกายเสร็จควรรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสร็จโดยเร็ว เพราะยังมีคนอื่นรอคอยใช้ต่อจากเรา
2. ไม่ควรอาบน้ำในห้องฝักบัวนานเกินเหตุ
เพราะมีคนยืนรอใช้ฝักบัวอาบน้ำต่อ ที่สำคัญเวลาอาบน้ำควรปิดประตูให้มิดชิด ไม่ควรเปิดอ้าซ่าให้ใครต่อใครเดินผ่านไปมาเห็นของสงวนที่บางทีอาจเป็นภาพทำให้คนเห็นรู้สึกว่าวันนี้ช่างเป็นวันโชคร้ายซะเหลือเกิน!
3. ควรสนทนากันให้น้อยที่สุด
การผูกมิตรกับผู้อื่นเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรคุยกันในระดับที่เหมาะสมเพียงช่วงสั้นๆ ไม่ควรคุยยืดยาวหรือถามแบบเจาะลึกจนคู่สนทนารู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่คู่สนทนาหรือคุณยังแต่งตัวไม่เสร็จ
4. เก็บโทรศัพท์ไว้คุยทีหลัง
ห้องล็อกเกอร์ รูม ไม่ใช่ห้องประชุมส่วนตัว การคุยโทรศัพท์เสียงดังนานๆ สร้างความรำคาญให้คนอื่น หากสายที่โทร.เข้ามามีเรื่องสำคัญควรถามว่าจะโทร.กลับไปได้ไหม แล้วเดินออกไปคุยข้างนอกห้องล็อกเกอร์
นอกจากนี้ ถ้าจะทิ้งโทรศัพท์ไว้ในตู้ล็อกเกอร์ก็ควรปิดเสียงโทรศัพท์เพื่อที่คนอื่นจะได้ไม่ต้องทนฟังเสียงเรียกเข้าครั้งแล้วครั้งเล่าไม่หยุดหย่อน
5. สวมรองเท้าแตะ
การสวมรองเท้าแตะในห้องล็อกเกอร์ รูมและห้องอาบน้ำนอกจากจะเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับสุขภาพอนามัยแล้ว ยังถือเป็นเรื่องที่สุภาพอีกด้วย เพราะหลายๆ คนที่เข้ามาใช้บริการในฟิตเนสอาจมีบาดแผลที่เท้าซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรค การสวมรองเท้าแตะจึงช่วยลดความเสี่ยงเรื่องสุขอนามัยได้
6.เช็ดตัวให้แห้งก่อนออกจากห้องอาบน้ำ
การเดินตัวเปียกๆ ออกจากห้องน้ำจะทำให้เกิดรอยหยดน้ำตลอดทางที่เดิน เสี่ยงต่อการทำให้คนอื่นลื่นล้ม หรือไม่ก็น้ำกระเซ็นไปโดนสมาชิกฟิตเนสคนอื่นๆ หรือสัมภาระของพวกเขา นอกจากนี้ การยืนยกแข้งขาเช็ดตัวต่อหน้าคนอื่นก็มีโอกาสที่เขาจะเห็นสิ่งที่ไม่น่าดู สร้างความไม่สบายใจให้แก่เขาได้!
7. ปกปิดร่างกายให้มิดชิด
ห้องล็อกเกอร์ รูมไม่ใช่สถานที่ที่จะโชว์เรือนร่างเปล่าเปลือยหรือของสงวนให้ใครต่อใครเห็น คุณไม่จำเป็นต้องถึงขนาดนำผ้ามาปิดตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่อย่างน้อยก็ควรสวมกางเกงในสักตัวก่อนเดินไปเป่าผม โกนขน หรือทำกิจกรรมใดๆ ต่อหน้าคนอื่นๆ
8. ไม่ล่อนจ้อนในห้องเซาน่ารวม
การเปลือยกายในห้องเซาน่าอาจทำให้หลายๆ คนรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งจริงๆ แล้วการไม่มีอะไรปกคลุมร่างกายไม่ได้ทำให้เหงื่อออกเยอะขึ้นกว่าเดิม และการที่ห้องเซาน่ามีผ้าเช็ดตัวให้นุ่งก็เพื่อป้องกันคราบเหงื่อติดม้านั่งซึ่งจะก่อให้เกิดความรังเกียจและสกปรกต่อผู้อื่นที่มาใช้ต่อ
9. ฉีดสเปรย์พอประมาณ
หากคุณเป็นคนที่ชอบเสริมบุคลิกด้วยการฉีดน้ำหอม ควรจะคำนึงถึงคนอื่นๆ ที่ใช้ห้องล็อกเกอร์ร่วมกันด้วย บางคนอาจมีอาการภูมิแพ้หรือจมูกไวต่อกลิ่น เพราะฉะนั้น ไม่ควรฉีดทั่วทั้งตัวแบบตรงๆ แต่ควรใช้วิธีฉีดพ่นใส่มือแล้วทาให้ทั่วทั้งร่างกายแทน
สำหรับสเปรย์ฉีดผม หากเป็นไปได้ควรเปลี่ยนเป็นใช้เจลหรือมูสแทน
10. รักษาความสะอาดในพื้นที่
เมื่อใช้งานในล็อกเกอร์ รูม และห้องอาบน้ำเสร็จแล้วควรตรวจดูความเรียบร้อยโดยเฉพาะเรื่องความสะอาด หากเราทำให้พื้นที่สกปรกหรือทิ้งขยะไว้เลอะเทอะอาจจะทำให้เกิดโดมิโน่เอฟเฟ็กต์ คือทำให้คนต่อไปที่มาใช้งานเกิดความรู้สึกไม่อยากทำความสะอาดของทั้งตัวเองและคนก่อนหน้าตามไปด้วย จนกลายเป็นแหล่งสะสมขยะ ดังนั้น อย่าเพียงคิดว่าทางฟิตเนสมีพนักงานทำความสะอาดอยู่แล้ว เราควรช่วยกันรักษาความสะอาดด้วย
11. ล็อกตู้ล็อกเกอร์ให้เรียบร้อย
โดยเฉพาะเมื่อมีโทรศัพท์และของมีค่าอยู่ข้างใน นอกจากจะเป็นการรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินแล้ว ยังช่วยหลีกเลี่ยงการรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะคนอื่นคิดว่าตู้ล็อกเกอร์ว่าง จะทำให้รู้สึกไม่สบายใจทั้งสองฝ่าย
12. หากเจอคนที่รู้จักโดยบังเอิญ
ไม่ควรเข้าไปทักทายโดยทันที ควรรอจนกว่าเขาทำภารกิจให้เสร็จเรียบร้อยซะก่อน เพราะการเข้าไปทักทายในขณะที่เจ้าตัวกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่อาจทำให้เขาเกิดความลำบากใจที่จะคุยได้ และควรมองตาคู่สนทนาโดยไม่ก้มหน้ามองลงล่าง
อ่านแล้วอย่าคิดว่าเป็นเรื่องจุกจิกหยุมหยิม ทุกๆ ที่เขามีกฎกติกามารยาทของเขาครับ