Computer Vision Syndrome อันตรายจากการใช้สายตาของคนติดจอ
วัยเรียน วันทำงานอย่างเราๆ มีโอกาสใช้คอมพิวเตอร์ทำงานทั้งวัน เล่นมือถือ ดูแท็บเล็ต โดยที่เราอาจไม่ได้คำนึงถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตาได้ เพราะเราอาจละเลยอาการผิดปกติที่อาจขึ้น เช่น ตาล้า พร่ามัว ตาแห้ง หรือในบางรายอาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย
แพทย์หญิงชรัญญา แก้วไกรสร จักษุแพทย์โรคกระจกตาและการผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ โรงพยาบาลพิษณุเวช พิษณุโลก ให้ข้อมูลดีๆ เอาไว้ใสรายการ Sanook Call From Nowhere ให้วันเรียนวัยทำงานอย่างเราได้อ่านกัน ก่อนที่อาการทางดวงตาจะรุนแรงจนต้องพบแพทย์
Computer Vision Syndrome คืออะไร?
Computer Vision Syndrome คืออาการผิดปกติของดวงตาที่เกิดขึ้นจากการจ้องมองจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือมากเกินไป นานเกินกว่า 1-2 ชั่วโมงโดยที่เราไม่ปรับเปลี่ยนหรือขยับสายตาไปมองสิ่งอื่นเลย เมื่อเราจ้องเพ่งนานๆ ม่านตาเราจะหดเล็กลง กล้ามเนื้อจะกลอกไปมาตามที่เรามองตัวอักษรต่างๆ บนจอ รวมถึงภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เช่น คลิปวิดีโอ การชมละครหรือซีรีส์เป็นระยะเวลานานๆ กล้ามเนื้อตาของเราก็จะทำงานหนักตลอดเวลา ทำให้เกิดอาการผิดปกติกับดวงตาได้
อาการของ Computer Vision Syndrome
อาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ มีอยู่หลายลักษณะ เช่น
อาการที่เกิดขึ้นกับดวงตา
- ปวดตา
- ตาพร่ามัว
- แสบตา
- เคืองตา
- ตาแห้ง
อาการที่เกิดขึ้นกับส่วนอื่นๆ ใกล้เคียง เช่น
- ปวดกระบอกตา
- ปวดศีรษะ
- อาจลามปวดไปถึงบริเวณท้ายทอยได้
Work From Home เสี่ยง Computer Vision Syndrome มากกว่าทำงานปกติ
การทำงาน หรือเรียนออนไลน์ที่บ้าน อาจทำให้เราใช้สายตาจ้องคอมพิวเตอร์นานมากกว่าปกติ เพราะเราไม่ได้ละสายตาจากหน้าจอเพื่อเดินทางไปทำงานตามปกติ ตื่นขึ้นมาแปบเดียวก็จ้องคอมพิวเตอร์แล้ว ดังนั้นเราจึงอาจจ้องคอมพิวเตอร์ และหน้าจออื่นๆ ในการทำงานนานกว่าเดิม จึงอาจเสี่ยง Computer Vision Syndrome มากกว่าการเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศ หรือเดินทางไปเรียนตามปกติ
อาการผิดปกติมากขนาดไหน ควรไปพบแพทย์
อาการปวดตา เมื่อยล้าดวงตา ตามัว ตาพร่า อาจเป็นอาการชั่วคราวที่อาจเกิดขึ้นได้หลังจ้องมองหน้าจอนานๆ เมื่อหยุดใช้งานหน้าจอไป อาการที่เกิดขึ้นอาจหายไปด้วย
แต่หากใครที่พักสายตาออกจากหน้าจอแล้วยังมีอาการอยู่ เช่น ตาพร่ามัว เคืองตา แสบตา ควรรีบพบจักษุแพทย์เพื่อหาสาเหตุ และรับการรักษาอย่างเร่งด่วน
วิธีถนอมสายตา เมื่อต้องใช้งานคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และมือถือนานๆ
- เลือกใช้แว่นสายตาให้เหมาะสมกับค่าสายตาของเรา ใครที่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บ่อยควรสวมแว่นที่เลนส์สามารถกรองแสงสีฟ้าได้ เพื่อช่วยให้มองหน้าจอได้สบายตามากขึ้น ตัดแว่นให้ค่าสายตาเหมาะสมโดยจักษุแพทย์ โดยเฉพาะวัย 40 ปีขึ้นไป ควรเลือกแว่นที่มีเลนส์ที่สามารถมองในระยะใกล้ได้ด้วย
- ใช้แผ่นกรองแสงวางทับหน้าจอคอมพิวเตอร์ รวมถึงแผ่นฟิล์มติดอุปกรณ์ที่มีหน้าจอทั้งหมด เพื่อช่วงกรองแสงที่สว่างจ้าออกไปบ้าง หรือสามารถเลือกโหมดถนอมสายตาบนหน้าจอมือถือ และแท็บเล็ตได้
- กระพริบตาให้บ่อยขึ้น ป้องกันอาการตาแห้ง
- ใช้กฎ 20-20-20
- ทุกๆ 20 นาที ให้ละสายตาออกจากหน้าจอ
- ใช้สายตากันมองสิ่งของที่อยู่ไกลๆ มากกวา 20 ฟุต (เป็นต้นไม้สีเขียวได้ยิ่งดี)
- ใช้เวลามองค้างไว้นาน 20 วินาที
ก่อนจะกลับมามองที่หน้าจอเหมือนเดิม และหลังจากจ้องหน้าจอมาทั้งวัน ควรมีเวลาพักสายตาบ้างด้วยการทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น อาบน้ำ กินข้าว เดินเล่น ทำอาหาร ฯลฯ เพื่อลดการใช้สายตาจ้องเพ่งหน้าจอ
รับชมรายการ Sanook Call From Nowhere กับแพทย์หญิงชรัญญา แก้วไกรสร จักษุแพทย์โรคกระจกตาและการผ่าตัดแก้ไขสายตาผิดปกติ โรงพยาบาลพิษณุเวช พิษณุโลก ได้ที่นี่