“น้ำข้อเทียม” คืออะไร? กับประโยชน์ในการรักษา “ข้อเข่าเสื่อม”
ทำความรู้จัก “น้ำข้อเทียม” และประโยชน์ในการนำมาใช้รักษาโรค “ข้อเข่าเสื่อม”
โรคข้อเข่าเสื่อม เป็นอย่างไร?
นพ.เกรียงศักดิ์ เล็กเครือสุวรรณ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อเข่า, ข้อสะโพก และข้อไหล่ โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล ให้ข้อมูลว่า โรคข้อเข่าเสื่อม มาจาก “ภาวะเสื่อมของกระดูกอ่อนในข้อเข่า” ร่วมกับมีอาการอักเสบข้องเนื้อเยื่อในข้อเข่า เป็นๆ หายๆ ไปจนถึงมีกระดูกงอกในบริเวณข้อเข่า โดยที่ต้องไม่มีภาวะติดเชื้อในข้อร่วมด้วย อันนี้เรียกว่าโรคข้อเข่าเสื่อมครับ และการที่กระดูกอ่อนในข้อเข่านั้นเสื่อมนี้แหละ ที่เป็นที่มาของชื่อโรคนั่นเอง
อาการสำคัญของโรคข้อเข่าเสื่อม
อาการเหล่านี้ถือเป็นอาการเตือนระยะเริ่มต้นของข้อเข่าเสื่อม
- อาการปวดข้อเข่าเป็นๆ หายๆ
- มีข้อติดขัดขยับไม่คล่อง
- บางครั้งบวมหรือบางครั้งอุ่นผิดปกติ
- อาการแย่ลงเมื่อ นั่งยอง ขัดสมาธิ พับเพียบ หรือ ขึ้นลงบันได
วิธีรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม
วิธีรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมมีตั้งแต่รับประทานยา ฉีดยา ทำกายภาพบำบัด ไปจนถึงผ่าตัด ขึ้นกับระดับความเสื่อม และการตอบสนองต่อการรักษาของคนไข้แต่ละคน โดยวันนี้หมอจะมาตอบคำถามที่ถูกถามมามากข้อหนึ่งเกี่ยวกับวิธีการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม นั่นก็คือ “น้ำข้อเทียม”
“น้ำข้อเทียม” คืออะไร?
น้ำข้อเทียม หรือ Hyaluronic acid (HA) คือของเหลวลักษณะคล้ายเจล พบเป็นส่วนประกอบของร่างกาย โดยพบมากที่ข้อต่อต่างๆ และ ลูกตา น้ำข้อเทียมจัดเป็นยาฉีดเข้าข้อที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาอเมริกา US FDA เพื่อใช้ทดแทนน้ำหล่อลื่นในข้อเข่า (แต่ยังสามารถใช้เพื่อฉีดที่ข้อไหล่และข้อสะโพกเพื่อจุดประสงค์เดียวกันได้ด้วย)
การออกฤทธิ์ของน้ำข้อเทียม หลังจากที่ได้รับการฉีดเข้าไปในข้อเข่าแล้วนั้น น้ำข้อเทียมสามารถลดปวดและชะลอการเสื่อมของข้อเข่าด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
- ช่วยหล่อลื่น (Lubrication) ทำให้การเคลื่อนไหวของข้อต่อเป็นไปอย่างนุ่มนวลขึ้น ลดเสียงกรอบแกรบภายในข้อเข่า ลดอาการติดขัดหากนั่งงอเข่า หรือนอนเหยียดเข่าเป็นเวลานาน
- รองรับแรงกระแทกให้กับข้อเข่า (Shock absorption) ความหนาแน่นของน้ำข้อเทียม ทำให้เกิดแรงกระทำที่กระดูกอ่อนลดลง ลดอาการเจ็บปวดจากการเสียดสีของกระดูกอ่อนบริเวณที่สึกไป โดยในผู้ป่วยข้อเสื่อมนั้น คุณสมบัติ viscoelasticity หรือ ความหนืดของน้ำไขข้อจะลดลงอย่างมาก ทำให้ความสามารถในการช่วยหล่อลื่นและรองรับแรงกระแทกให้กับข้อนั้นลดลงตามไปด้วย เป็นเหตุให้เกิดแรงกระทำต่อข้อมากขึ้นและมีการทำลายกระดูกอ่อนผิวข้อ ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวดตามมา
- มีฤทธิ์ลดการอักเสบ (Anti-inflammatory effects) จากงานวิจัยพบว่าหลังจากฉีดน้ำข้อเทียม ข้อเข่ามีการอักเสบลดลง และตามมาด้วยอาการบวมและปวดที่ลดลง
- จับกับปลายประสาท (Boundary around nerve endings) ลดการส่งกระแสประสาทความปวดไปที่สมอง ส่งผลเสริมในเรื่องลดอาการปวด
- นำสายอาหารไปเลี้ยงข้อเข่า โดยจากงานวิจัย พบว่าน้ำข้อเทียม อาจจะนำสารอาหารต่าง ๆ ไปเลี้ยงผิวของกระดูกอ่อน และเยื่อหุ้มข้อเข่าได้
ชนิดของน้ำข้อเทียม
ชนิดของน้ำข้อเทียมนั้นแบ่งตามน้ำหนักโมเลกุล หรือ ขนาดของโมเลกุลนั่นเอง ซึ่งทำให้น้ำข้อเทียมยี่ห้อต่างๆ ในตลาดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ชนิดที่โมเลกุลใหญ่จะมีฤทธิ์ของการหล่อลื่นและรับแรงกระแทกในข้อ 1 และ 2 มากกว่าโมเลกุลเล็ก ส่วนโมเลกุลเล็ก จะมีฤทธิ์ ในการสอดแทรกเข้าในเนื้อเยื่อได้ดีกว่า และน้ำข้อเทียมที่มีน้ำหนักโมเลกุลปานกลางจะมีฤทธิ์ของทั้งสองแบบ คือมีคุณสมบัติในการสร้าง น้ำในข้อเข่า (endogenous HA) จากเยื่อหุ้มข้อเข่า (synovial cells) รวมถึงการสร้างสารในเซลล์กระดูกอ่อน (extracellular matrix of cartilage) ฤทธิ์การลดอักเสบและลดอาการปวด รวมไปถึงการหล่อลื่นและรับแรงกระแทกในข้อเข่าร่วมด้วย
น้ำข้อเข่าเทียมเหมาะกับใคร?
การรักษาด้วยน้ำข้อเท่าเทียมนั้นไม่ได้เหมาะกับทุกคนนะครับ การรักษาจะได้ผลดีในผู้ที่มีอาการปวดเข่ามาจากผิวกระดูกอ่อนภายในข้อ ไม่ว่าจะเป็น
- ผู้สูงอายุทีมีข้อเข่าเสื่อม
- คนหนุ่มสาวที่ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเข่าแล้วมีอาการปวดเรื้อรัง
- ผู้ที่น้ำหนักตัวมากแล้วมีอาการปวดข้อเข่าจากการสึกของกระดูกอ่อน
- ผู้ป่วยที่อาจไม่ต้องการหรือไม่สามารถผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมได้ แต่มีอาการปวดข้อเข่าเรื้อรัง หรือ ปวดเป็นๆ หายๆ
- ผู้ที่ต้องการ การรักษาโดยไม่ต้องรับประทานยาลดอักเสบ เพื่อไม่ให้ได้รับผลข้างเคียงของการรับประทานยากลุ่มดังกล่าว
สิ่งที่จะเกิดขึ้นและข้อควรปฏิบัติหลังจากรับการฉีดน้ำข้อเทียม
เริ่มจากแพทย์จะทำความสะอาด และทายาฆ่าเชื้อที่ข้อเข่าก่อนที่จะเริ่มฉีดน้ำข้อเทียม หากมีน้ำในข้อเข่าที่เกิดจากการอักเสบ แพทย์จะดูดน้ำออกก่อนที่จะฉีดน้ำข้อเทียม หลังจากฉีดยาควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องยกของหนักเป็นเวลา 1-2 วัน จากนั้นสามารถใช้ชีวิตได้ปกติ การฉีดยาจะฉีดติดต่อก่อนเป็นเวลา 3 สัปดาห์ ซึ่งจากงานวิจัยพบว่าได้ผลดีกว่าการฉีดเพียงครั้งเดียว
หากเราดูแลข้อเข่าอย่างดีในวันนี้ ย่อมจะสามารถลดการเกิดข้อเข่าเสื่อมลงได้ในอนาคต ทำให้โอกาสรับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมลดลง ปวดเข่าลดลงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น